posttoday

วัสดุก่อสร้างลงทุน 500 ล.ขยายกำลังผลิตนำหุ่นยนต์เสริมทัพ

28 กุมภาพันธ์ 2562

บอร์ดบริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร อนุมัติลงทุน 500 ล้าน เพิ่มกำลังผลิต นำหุ่นยนต์ เสริมทัพ ตั้งเป้าปีนี้โต 5%

บอร์ดบริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร อนุมัติลงทุน 500 ล้าน เพิ่มกำลังผลิต นำหุ่นยนต์ เสริมทัพ ตั้งเป้าปีนี้โต 5%

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างปีนี้คาดมีการเติบโตราว 5% มูลค่าตลาดผนังและหลังคารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพราะความต้องการภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเห็นสัญญาณการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับราคามาตั้งแต่ปีที่แล้วเฉลี่ย 3-5%

สำหรับแผนธุรกิจปีนี้บริษัทเตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาอนุมัติงบราว 500 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกลงทุนด้านเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตทั้งไฟเบอร์ซีเมนต์ กลุ่มผนังและไม้สังเคราะห์เพิ่มอีก 5-6 หมื่นตัน/ปี จากกำลังผลิตทั้งหมดในปัจจุบันที่มีราว 1.1 ล้านตัน/ปี

นอกจากนี้ เตรียมลงทุนติดตั้งโรบอตในโรงงานผลิตสินค้ากลุ่มหลังคาคอนกรีต เพื่อลดการใช้แรงงานจากเอาต์ซอสลงราว 50% ขณะเดียวกันยังจะช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบบางรายการที่เพิ่มขึ้น เบื้องต้น 3 ตัว งบลงทุน 15 ล้านบาท รวมทั้งการขยายพื้นที่คลังสินค้าอีก 3,500 ตารางเมตร รองรับการขายสินค้าและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการส่งมอบสินค้าให้ดียิ่งขึ้น

"การลงทุนครั้งนี้ถือว่าเป็นการลงทุนในรอบ 6-7 ปี ซึ่งที่ผ่านมาการขยายกำลังการผลิตจะสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจให้เพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องทุกปี หากไม่เพิ่มกำลังผลิตอาจส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าไม่ทัน ไม่สามารถรองรับตลาดใหม่ได้ ทำให้บริษัทเสียโอกาส ปัจจุบันใช้กำลังผลิตเครื่องจักร 80-90%" นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า ปีนี้วางงบ 3-4% รายได้ เพื่อทำการตลาดมุ่งเน้นกับการเพิ่มยอดขายในทุกมิติ ภายใต้กลยุทธ์สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง เพื่อขยายตลาดในประเทศ อีกทั้งการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งนำเข้าสินค้าใหม่ เช่น ในกลุ่มหลังคาคอนกรีตเจาะตลาดระดับกลาง ซึ่งราคาต่ำกว่า 3-5% เมื่อเทียบกับคุณภาพกับสินค้าในทั่วไป

ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มซีแอลเอ็มวีที่บริษัทมีฐานลูกค้าอยู่แล้วมากขึ้น เช่น เมียนมา กัมพูชา ฯลฯ ซึ่งขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายแต่ละปีราว 5-10 ราย ขณะที่จีน อินเดีย จะมีการส่งออกสินค้าเพิ่ม โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็น 20% จากขณะนี้อยู่ที่ 17-18%

สำหรับปีนี้ตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 5% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวมกว่า 4,415 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 422 ล้านบาท โดยจะเพิ่มยอดขายในทุกช่องทางจำหน่าย แบ่งเป็น 50% จากร้านค้าผู้แทนจำหน่ายรายย่อย กลุ่มค้าปลีกอีก 15% จากลูกค้าโครงการ และที่เหลือส่งออก โดยบริษัทจะเน้นตลาดผนังมากขึ้น เพราะกลุ่มหลังคามีความแข็งแกร่งบริษัทมีส่วนแบ่งอันดับ 2 หรือ 30% ของตลาดหลังคา