posttoday

ค่ายรถตอบรับมาตรฐานยูโร5

13 กุมภาพันธ์ 2562

สศอ. ระบุ 9 ค่ายรถตอบรับผลิตรถมาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 2564 เร็วขึ้นจากเดิมปี 2567 แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

สศอ. ระบุ 9 ค่ายรถตอบรับผลิตรถมาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 2564 เร็วขึ้นจากเดิมปี 2567 แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมบริษัทรถยนต์ในการยกระดับเป็นมาตรฐานยูโร 5 ว่า บริษัทรถยนต์ 9 ราย ได้แก่ โตโยต้า บีเอ็มดับเบิลยู จีเอ็ม อีซูซุ มาสด้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ มิตซูบิชิ เอ็มจี ซูซูกิ ได้ตอบรับกำหนดระยะเวลาบังคับใช้มาตรฐานมลพิษระดับยูโร 5 ในรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นทุกคันภายในปี 2564 เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง พีเอ็ม2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อมของไทยระยะยาว รวมทั้งจะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีจำหน่ายบ้างแล้วตามสถานีบริการน้ำมันในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละอองกว่า 20-25%

"การยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันให้เป็นยูโร 5 ซึ่งขณะนี้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ยังคงมีการปล่อยฝุ่นพีเอ็ม จากไอเสียเครื่องยนต์ที่มีความเข้มข้นกว่ารถยนต์มาตรฐานยูโร 5 ถึง 5 เท่าตัว โดยในการประชุมหารือบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ขานรับนโยบายของภาครัฐ แม้ว่าการยกระดับมาตรฐานรถยนต์ยูโร 4 ไปเป็นยูโร 5 และยูโร 6 โดยเร็วจะมีต้นทุนการปรับเปลี่ยนและต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่สูงขึ้นก็ตาม เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าและประชาชนไทยทุกคน" นายณัฐพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ได้ เนื่องจากผู้ประกอบการรถยนต์ระบุถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น 1.5-2 หมื่นบาท/คัน ซึ่งจะกระทบกับผู้บริโภค แต่เมื่อมีการคำนวณถึงการปล่อยฝุ่นที่สะสมจากรถมาตรฐานยูโร 4 ขณะนี้ที่มีกว่า 10 ล้านคันแล้ว ประชาชนจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นในการซื้อหน้ากาก N95 ทุกวันคิดเป็น 1.82 หมื่นบาท/ปี/คน คิดเฉพาะคนกรุงเทพมหานคร 11 ล้านคน คิดเป็นเงินที่ต้องจ่ายถึง 2 แสนล้านบาท/ปี ยังไม่รวมเครื่องกรองอากาศต่อครัวเรือน และต้องรวมกับการเปลี่ยนไส้กรองอีกจะเห็นว่าการซื้อรถยนต์ที่แพงขึ้นถือว่าคุ้มค่าแล้ว