posttoday

Tellscore แพลตฟอร์ม‘Influencers Marketing’

08 กุมภาพันธ์ 2562

เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมทุกอุตสาหกรรม ไปจนถึงการทำตลาดที่มีสตาร์ทอัพไทย ก้าวสู่การทำมาร์เก็ตติ้งเทค อย่างครบวงจรกับ “Tellscore”

เรื่อง วราภรณ์ เทียนเงิน

เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมทุกอุตสาหกรรม ไปจนถึงการทำตลาดที่มีสตาร์ทอัพไทย ก้าวสู่การทำมาร์เก็ตติ้งเทค อย่างครบวงจรกับ “Tellscore” เพื่อเข้ามาร่วมแก้ปัญหาการทำตลาดในรูปแบบเดิม และร่วมเปลี่ยนโฉมการทำตลาดของประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์ม “Influencers Marketing”

“สุวิตา จรัญวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง “เทลสกอร์” (Tellscore) บริษัท เทลสกอร์ เปิดเผยว่า เทลสกอร์ ที่ได้นำเสนอรูปแบบการตลาดทำแบบใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ให้มีเครื่องมือทำตลาดผ่านแพลตฟอร์ม “อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง” (Influencers Marketing) เพื่อทำให้การทำตลาดเกิดการขยายผลและส่งผลต่อการถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้างมากที่สุด

“Tellscore” จะเข้ามาทำหน้าที่เชื่อมโยงกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีการเก็บข้อมูลดาต้าของแต่ละคน และมีการประเมินผลข้อมูลสถิติต่างๆ อย่างชัดเจน เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการทำตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ สามารถได้รับข้อมูลและวางแผนในการทำตลาดได้ผ่านบริษัทที่เป็นตัวกลาง ดังนั้นจึงส่งผลดีต่อทั้งอินฟลูเอนเซอร์ในการติดต่อประสานงานต่างๆ ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเป็นผลดีต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วยเช่นกัน

ในปัจจุบันมีอินฟลูเอนเซอร์ รวม 2.6 หมื่นคนใน 12 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ ความงาม การศึกษา และกลุ่มฟิตเนส เป็นต้น แบ่งเป็นกลุ่มที่มียอดผู้ติดตามในระดับต่ำกว่า 2 หมื่นคน หรือเรียกว่า ไมโคร อินฟลูเอนเซอร์ และกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ มียอดติดตามมากกว่า 2 หมื่นคนขึ้นไป ซึ่งลูกค้าต้องการใช้บริการผ่านบริษัทที่จะดำเนินการทั้งการร่วมค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ ที่ลูกค้าต้องการ ต่อมามีการเจรจาจ้างงานเกิดขึ้น การร่วมทำแคมเปญการตลาด การเก็บข้อมูล ดาต้า สถิติ เพื่อประเมินผล และการจ่ายเงินผ่านบริษัทให้แก่ผู้ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ดังนั้น ถือเป็นการทำตลาดที่ได้ผลและมีความแม่นยำ เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

กลุ่มลูกค้าหลักในปัจจุบันแบ่งเป็น กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ที่ผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ และกลุ่มเอเยนซีที่ต้องการเข้ามาเชื่อมต่อการตลาด ทั้งนี้ บริษัท เทลสกอร์ ได้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเต็มรูปแล้วตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา และสามารถสร้างผลตอบรับที่ดี รวมถึงมีลูกค้าเข้ามาติดต่อใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราค่าบริการก็มีความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการทำตลาดผ่านการโฆษณาแบบทั่วไป และมีอัตราค่าบริการ
เอสเอ็มอีแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 3 หมื่นบาท

“อินฟลูเอนเซอร์ มีผลต่อการใช้สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กับแบรนด์ ทั้งการกดไลค์ แชร์ และแสดงความคิดเห็น มีผลทำให้คนพูดถึงและให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในทั่วโลกแล้ว” สุวิตา กล่าว

“สุวิตา” กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันบริษัทมีทีมงานรวมกว่า 50 คน และมีทีมงานที่ทำเทคโนโลยี จึงพร้อมพัฒนาระบบและบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา และในปัจจุบัน ได้มีการสร้างระบบเอไอ (AI) เป็นเครื่องมือใหม่ เพื่อทำให้การทำตลาดของลูกค้ามีความแม่นยำและเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

“ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ทำด้านดิจิทัล เอเยนซี มาหลายปี และสนใจสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า จึงได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มการตลาดแบบใหม่ พร้อมนำเสนอให้แก่ลูกค้าพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทำให้บริษัทตัดสินใจเปลี่ยนบริษัท มาก้าวสู่การทำการตลาดรูปแบบใหม่อย่างครบวงจร ถือได้ว่าเป็นมาร์เก็ตติ้งเทค รายแรกๆ ของประเทศไทย” สุวิตา กล่าว

ล่าสุดบริษัทได้เข้าร่วมโครงการ “depa Accelerator Program x Techsauce” จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) หรือดีป้า กับบริษัท เทคซอส มีเดีย และบริษัทเป็นผู้ชนะในการประกวดโครงการนี้

สุวิตา กล่าวต่อว่า ในปี 2562 มีการขยายธุรกิจไปเปิดบริษัทใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ที่เมืองจาการ์ตา ที่มีพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย และมีความสนใจจะขยายตลาดในประเทศอื่นๆ ต่อไปในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากบริษัทมีทีมงานที่มีความแข็งแกร่ง การมีเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาภายในองค์กร และมีนวัตกรรม พร้อมนำเสนอบริการแก่ลูกค้าให้ตรงกับความต้องการและมีความคุ้มค่า

“ผู้ประกอบการต้องอย่ากลัวที่จะสร้างเอสเคิร์ฟใหม่ และสร้างสิ่งใหม่ในธุรกิจ ก่อนหน้านี้ทำเอเยนซีมีการเติบโตแบบช้าๆ ไม่หวือหวา และเริ่มเห็นความนิ่ง ที่ไม่ได้หมายความว่าไม่โต แต่เป็นการโตแบบเดิม ดังนั้นทุกคนต้องยอมรับว่า ธุรกิจมีวัฏจักรขึ้นลง ในทุก 15 ปีก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นว่าธุรกิจเริ่มนิ่ง ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ปฏิรูป สร้างสิ่งใหม่ และใส่นวัตกรรมไปด้วย เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตต่อไป” สุวิตา กล่าว

ในระยะต่อไป บริษัทวางเป้าหมายสู่ผู้นำตลาดในประเทศไทย และในระยะยาว สู่ผู้นำตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทพร้อมนำเสนอเครื่องมือใหม่ๆ และบริการใหม่ให้แก่ลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง