posttoday

คุมโรงไฟฟ้าถ่านหิน กพช.เคาะแผนพีดีพีเน้นพลังงานหมุนเวียน

25 มกราคม 2562

กพช.อนุมัติแผนพีดีพี 2018 หั่นพลังงานจากถ่านหินลงเหลือ 12% กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศอยู่ที่ 77,211 เมกะวัตต์ ตรึงค่าไฟ3.58บาท/หน่วย ทบทวนทุก5ปี

กพช.อนุมัติแผนพีดีพี 2018 หั่นพลังงานจากถ่านหินลงเหลือ 12% กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศอยู่ที่ 77,211 เมกะวัตต์ ตรึงค่าไฟ3.58บาท/หน่วย ทบทวนทุก5ปี

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี 2561-2580 ระยะ 20 ปี หรือแผนพีดีพี 2018 ภายใต้แผนนี้ได้ประเมินราคาค่าไฟฟ้า อยู่ที่ 3.50-3.68 บาท/หน่วย หรือเฉลี่ย 3.58 บาท/หน่วย และให้กระทรวงพลังงานทบทวนแผนทุก 5 ปี ช่วงปลายแผนกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศจะอยู่ที่ 77,211 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 46,090 เมกะวัตต์

สำหรับสัดส่วนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าใหม่รวม 56,431 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นจากพลังงานหมุนเวียน 20,766 เมกะวัตต์ พลังน้ำสูบกลับ 500 เมกะวัตต์ ระบบ โคเจเนอเรชั่น 2,112 เมกะวัตต์ ความร้อนร่วม 13,156 เมกะวัตต์ ถ่านหิน/ลิกไนต์ 1,740 เมกะวัตต์ รับซื้อจากต่างประเทศ 5,857 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าใหม่/ทดแทน 8,300 เมกะวัตต์ และจากแผนอนุรักษ์พลังงาน 4,000 เมกะวัตต์

ด้านสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจาก เชื้อเพลิงที่ไม่ได้มาจากฟอสซิล มี 35% คือ พลังน้ำต่างประเทศ 9% พลังงานหมุนเวียน 20% การอนุรักษ์พลังงาน 6% ถ่านหิน ลดลงเหลือ 12% จากแผนเดิม 20% เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งกพช.ยังเห็นชอบการรับซื้อโซลาร์เซลล์ บนหลังคาที่อยู่อาศัยและเหลือต้องการขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง ปีแรกจะรับซื้อ 100 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 10 ปี

นอกจากนี้ กพช.อนุมัติต่ออายุสัญญากลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) ระบบโคเจเนอเรชั่น 25 ราย กำลังผลิตไฟฟ้า 2,974 เมกะวัตต์ ที่สิ้นสุดสัญญาในปี 2559-2568 อีก 25 ปี ก๊าซธรรมชาติรับซื้ออยู่ที่ 2.80 บาท/หน่วย ถ่านหิน 2.54 บาท/หน่วยและให้ต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้าที่จะสิ้นสุดในปี 2562-2564 ให้ลงทุนใหม่ได้