แนะอาเซียนฝ่า3ความท้าทาย

ประธานทีดีอาร์ไอแนะอาเซียนเร่งจัดการ 3 ความเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2019 ว่า อาเซียนต้องหาทางจัดการ 3 ความท้าทายที่จะส่งต่อเศรษฐกิจภายในภูมิภาค ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยี การพึ่งพาจีนอย่างมาก และสงครามการค้า

สำหรับประเด็นแรก นายสมเกียรติ มองว่าเอกชนรายย่อยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวรับมือความเปลี่ยนแปลงให้เร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่ความท้าทายอย่างที่ 2 นั้นคือ อาเซียนกำลังพึ่งพาจีนมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยิ่งพึ่งพามากขึ้น ยิ่งมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากจีนมากขึ้น

ทั้งนี้ นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า ไทยพึ่งพาจีนมากยิ่งขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนออกมาจาก 3 ด้านหลัก โดยในปี 2560 การพึ่งพาด้านส่งออกที่ปรับตัวขึ้น 12.5% รายได้จากการท่องเที่ยวที่พึ่งพาจีนเพิ่มขึ้น 28.8% และสัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) จากจีน ที่เพิ่มขึ้น 13.5%

สำหรับความท้าทายสุดท้ายคือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งนายสมเกียรติมองว่า ความขัดแย้งของ 2 ชาติมีแนวโน้มลุกลามไปยังประเด็นอื่นๆ นอกจากเรื่องการค้า

ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความท้าทายของอาเซียนแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ การเร่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจชาติอาเซียนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างตลาดการค้า ขนาดใหญ่คล้ายคลึงกับสหภาพยุโรป (อียู) และการวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัล

ขณะเดียวกัน นายโดนัลด์ คานัก ประธานสภาธุรกิจอียู-อาเซียน มองว่าอาเซียนต้องเร่งพัฒนา 4 ด้าน คือ ด้านการศึกษา การเงิน การเชื่อมโยงระหว่างกันภายในภูมิภาค และเทคโนโลยี โดยนายคานัก มองว่าอาเซียนควรเร่งแก้ไขอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีและลดความซับซ้อนด้านกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้ภาคธุรกิจ

ขณะที่นาย อู เมียว จ่อ สมาชิกสภาธุรกิจอาเซียน-เมียนมา มองว่าความ ไม่เป็นเนื้อเดียวกันด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องวีซ่า และช่องว่างการพัฒนาระหว่างบรรดาชาติอาเซียนที่แตกต่างกันมากเกินไป เป็นอุปสรรคใหญ่ในการ บูรณาการอาเซียน