posttoday

ตลาดรถจีนร่วงครั้งแรกในรอบ20ปี ยอดขายตก6%

10 มกราคม 2562

ยอดขายรถยนต์จีนร่วงครั้งแรกในรอบมากกว่า 2 ทศวรรษ ขณะรัฐบาลงัดแผนกระตุ้นบริโภค

ยอดขายรถยนต์จีนร่วงครั้งแรกในรอบมากกว่า 2 ทศวรรษ ขณะรัฐบาลงัดแผนกระตุ้นบริโภค

สมาคมรถยนต์โดยสารจีน (พีซีเอ) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนเมื่อปี 2018 อยู่ที่ 22.7 ล้านคัน ลดลง 6% จากปีก่อนหน้า และเป็นยอดขายที่ลดลงครั้งแรกในรอบมากกว่า 2 ทศวรรษ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เช่นเดียวกับความนิยมของบริการเรียกรถรับส่งก็ฉุดยอดขายรถยนต์เช่นกัน

กุยตงชู เลขาธิการของพีซีเอ กล่าวว่า แรงกดดันต่อผู้ผลิตรถยนต์กำลังเพิ่มขึ้น ยอดขายรถยนต์ที่ซบเซาจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อผู้เล่นที่ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน และคาดว่าค่ายรถบางแห่งอาจทิ้งตลาดจีนในปีหน้า ตามรอยซูซูกิ มอเตอร์ ที่ขายกิจการร่วมค้าแห่งสุดท้ายในจีนให้พันธมิตรท้องถิ่นเมื่อปีที่แล้ว

โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในจีนอาจจะลดลงอีก 7% ในปีนี้ หลังจากตลาดรถจีนซบเซาต่อเนื่องหลายไตรมาสติดต่อกัน โดยคาดการณ์ว่ายอดขายอาจกลับมาเพิ่มขึ้น 3% ในปี 2020

ขณะที่ หนิงจี๋เจ้อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) เปิดเผยว่า จีนเตรียมประกาศนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เช่น การกระตุ้นซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อส่งเสริมการบริโภคในประเทศที่กำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

เอ็นดีอาร์ซีกำลังพิจารณาร่างมาตรการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในพื้นที่ชนบท ขณะเดียวกันก็จะเร่งปฏิรูประบบการกระจายรายได้ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้มากขึ้น โดยจีนจะประกาศนโยบายเกี่ยวกับการเช่าบ้านและบริการต่างๆ และเตรียมที่จะลดอุปสรรคด้านการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ เช่น วัฒนธรรมและกีฬา นอกจากนี้เอ็นดีอาร์ซีจะเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศ ในไตรมาสแรกปีนี้ โดยแต่ละโครงการมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกันบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า กระทรวงการคลังจีนเตรียมเสนอร่างงบประมาณปี 2019 แบบขาดดุลเพิ่ม 2.8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดดุล 2.6% เพื่อรองรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในเดือน มี.ค.นี้ แต่ตัวเลขยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง

ด้านผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่าค่าเงินหยวนของจีนจะทะลุ 7 หยวน/ดอลลาร์ ภายใน 6 เดือนนี้ จากปัจจุบันที่ 6.8340 หยวน/ดอลลาร์ เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวนั้นอาจส่งผลให้ธนาคารกลางจีนอาจใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปีนี้