posttoday

รุมชิงเค้กรถไฟฟ้าภูธรแสนล. ไทย-จีนสนใจ ลุ้นเคาะประมูลปลายปีนี้

10 มกราคม 2562

ไทย-จีนสนใจประมูลรถไฟฟ้าภูธรแสนล้าน 3 เส้นทาง ลุ้นเคาะประมูลปลายปีนี้ ยันใช้โมเดลพีพีพีไม่ซ้ำเส้น จ.ขอนแก่น นำร่องเส้น จ.ภูเก็ต ขยับไทม์ไลน์ประมูลสายสีส้มปลายปีนี้

ไทย-จีนสนใจประมูลรถไฟฟ้าภูธรแสนล้าน 3 เส้นทาง ลุ้นเคาะประมูลปลายปีนี้ ยันใช้โมเดลพีพีพีไม่ซ้ำเส้น จ.ขอนแก่น นำร่องเส้น จ.ภูเก็ต ขยับไทม์ไลน์ประมูลสายสีส้มปลายปีนี้

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในปีนี้จะได้เห็นความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ในหัวเมืองสำคัญ อาทิ จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต และนครราชสีมา วงเงินรวมกว่า 1 แสนล้านบาท  โดยเร็วๆ นี้รัฐบาลจะทยอยออกพระราชกฤษฎีกาปลดล็อกให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เข้าไปดำเนินกิจการศึกษาออกแบบเพื่อจัดทำงบประมาณเพื่อเปิดประมูลโครงการต่อไป โดยเฉพาะโครงการรถไฟรางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต ช่วงท่านุ่น- ท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง วงเงิน 3.94 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเร่งด่วน (พีพีพี ฟาสต์แทร็ก)

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัท จงหยวนฉวง นิว อีเนอร์จี  บริษัท จงถาง สกายเรลเวย์ กรุ๊พ และบริษัท บริหารสินทรัพย์ เหอจุน เหนียนหลุน (เซียะเหมิน) ซึ่งเป็นกลุ่มพัฒนานวัตกรรมระบบขนส่งมวลชน ที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้การสนับสนุนนั้นสนใจเข้ามาลงทุนโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ภูมิภาคในจังหวัดต่างๆ โดยเบื้องต้นฝ่ายจีนได้แจงสเปกมูลค่าก่อสร้างโครงการไว้ที่ 750 ล้านบาท/กิโลเมตร (กม.)

ด้าน นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ภายในปีนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจนของโครงการรถไฟรางเบาในหัวเมืองสำคัญทั้งขั้นตอนการประกวดราคาและแนวทางก่อสร้าง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากในระยะยาว เริ่มจากเส้นทาง จ.ภูเก็ต ช่วงท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ตห้าแยกฉลอง วงเงิน 3.94 หมื่นล้านบาท คาดจะสามารถร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประมูลได้ปลายปี 2562

สำหรับโครงการแทรม จ.เชียงใหม่ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้บริษัทที่ศึกษาเข้ามาพิจารณาแนวทางการก่อสร้างและรูปแบบการลงทุน คาดจะ ลงนามสัญญาภายในเดือน ม.ค.นี้  ขณะที่ โครงการแทรม จ.นครราชสีมา วงเงิน 3.26 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมเปิดประกวดราคาหาตัว เอกชนศึกษาโครงการ ทั้งสองโปรเจกต์นี้จะใช้เวลาศึกษา 6 เดือน หากไม่ติดปัญหาอะไรจะเริ่มเห็นความชัดเจนในการร่างทีโออาร์ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ก่อนทยอยประมูลช่วงปลายปีนี้หรือช่วงต้นปี 2563

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 โครงการจะใช้รูปแบบการลงทุนที่แตกต่างจากรถไฟฟ้ารางเบา จ.ขอนแก่น ซึ่งใช้รูปแบบเอกชนท้องถิ่นรวมตัวกันตั้งบริษัทขึ้นมาดำเนินการ แต่ทั้ง 3 จังหวัดนี้จะเป็นรูปแบบเปิดประมูลให้เอกชนรายใหญ่เข้ามาร่วมลงทุนพีพีพีกับภาครัฐ ขณะนี้มีเอกชนหลายรายให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนรวมถึงบริษัทจากประเทศจีน

นายภคพงศ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 2.35 แสนล้านบาทนั้น จะใช้การประมูลเอกชนร่วมลงทุนแบบพีพีพี เน็ต คอสต์ เป็นโมเดลการลงทุนเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เอกชนลงทุนทั้งการก่อสร้างและระบบเดินรถไฟฟ้า โดยเอกชนเป็นคนรับผิดชอบงานโยธาพร้อมลงทุน ระบบรถไฟฟ้าและรับสัมปทานเดินรถ ซึ่งจะนำโครงการนี้เข้าที่ประชุมกับคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ดพีพีพี) ปลายเดือน ม.ค.นี้ คาดจะเปิดประมูลได้ปลายปี  2562