posttoday

เร่งปั๊มอีอีซีเต็มสูบ "สมคิด"ลั่นต้องเป็นรูปธรรมก่อนเลือกตั้ง

08 มกราคม 2562

"สมคิด" ประกาศช่วงเวลา ที่เหลือรัฐบาลจะเร่งผลักดันโครงการ ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของอีอีซีทั้งหมด ออกมาให้เป็นรูปธรรม สั่งบีโอไอรีบทำแผนลงทุนเขตศก.ทุกภาค

"สมคิด" ประกาศช่วงเวลา ที่เหลือรัฐบาลจะเร่งผลักดันโครงการ ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของอีอีซีทั้งหมด ออกมาให้เป็นรูปธรรม สั่งบีโอไอรีบทำแผนลงทุนเขตศก.ทุกภาค

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นับเป็นเครื่องมือดึงดูดที่สำคัญ ในช่วงเวลาที่เหลือรัฐบาลจะเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นฐานของอีอีซีทั้งหมดออกมาให้เป็นรูปธรรม ทั้งสนามบิน เมืองการบิน ท่าเรือแหลมฉบัง

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เร่งทำแนวทางส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษในภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ซึ่งในส่วนภาคใต้เดิมทำแต่การเกษตร โดยรัฐบาลจะเร่งสร้างรถไฟทางคู่ ลงไปเชื่อมระบบรางจากอีอีซีลงไปถึงชุมพร ระนอง ออกทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล

อย่างไรก็ตาม ภายในครึ่งแรกของปี คงจะเห็นแล้วว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลนโยบายเดิมที่รัฐบาลทำไว้จะอยู่หรือไม่ นักลงทุนคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจในช่วงเวลาครึ่งปีแรกนี้ให้ดีที่สุด ก่อนจะส่งไม้ต่อหลังการเลือกตั้งประคองเศรษฐกิจในประเทศให้ดี เพราะเศรษฐกิจโลกทรุด

"ประเด็นที่อยากฝากถึงนักการเมืองทุกฝ่ายคือ การดูแลความรู้สึกและความ เชื่อมั่นของประชาชน ที่จะเกิดความไม่เชื่อมั่น หากหลังการเลือกตั้งนี้ได้รัฐบาลผสม จะทำให้การขับเคลื่อนต่างๆ เป็นไปได้ยาก ไร้เสถียรภาพ อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันพิสูจน์ ทำความไม่แน่นอนให้เป็นความแน่นอน ช่วยกันพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่า แม้จะเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปให้ดีที่สุด คิดได้ไหม ถ้าคิดไม่ได้ อย่ามาเป็นนักการเมือง ประเทศชาติต้องมาก่อนพรรคมาทีหลัง ต้องช่วยกันหาคนดี มีฝีมือมาทำงาน ไม่ใช่คอยแต่หาคนมาจับจองพื้นที่กัน" นายสมคิด กล่าว

รองนายกฯ ระบุอีกว่า ปี 2562 เป็นปีที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยประเทศไทยเจอความไม่แน่นอนสองเด้ง มาจากปัจจัยต่างประเทศ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอเมริกันเฟิสต์ของอเมริกาทำให้เกิดสงครามการค้ากับจีน ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าทั้งสองประเทศที่เศรษฐกิจขึ้นกับการส่งออกเดือดร้อนกันไปหมดทั้งสิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน จีน ฮ่องกง จะต้องถูกผล กระทบมาก ส่วนราคาสินค้าเกษตรก็ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันทำให้จะต้องเป็นปีที่กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องทำงานหนัก สำหรับเด้งที่สองมาจากกำลังจะมีการเลือกตั้งในประเทศ

"แม้จะมีความไม่แน่นอน มีความเสี่ยงจากทั้งต่างประเทศและในประเทศแต่ก็มีโอกาสกับประเทศไทย เพราะช่วงเวลานี้ไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ มีความโดดเด่นในด้านของการเป็นศูนย์กลางของกลุ่มซีแอลเอ็มวีและอาเซียน ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของไทยที่ถูกจับตามองจากจีนและญี่ปุ่นที่จะร่วมมือกันมาลงทุนในประเทศที่สามด้วย เมื่อเห็นโอกาสอยู่ข้างหน้าแล้วจึงต้องคว้าโอกาสให้ได้ และเชื่อว่าการลงทุนจากต่างประเทศจะเลี้ยวมาลงทุนในไทยอย่างแน่นอน" นายสมคิด กล่าว