ผ่าแผน "เอ็มจี" ไต่สู่ท็อป 5 แบรนด์รถชั้นนำในไทย

"เอ็มจี"ตั้งเป้าขึ้นแท่น 1 ใน 5 อันดับ แบรนด์รถยนต์ด้านยอดขายแถวหน้าของประเทศไทย

***********************************

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ถือเป็นแบรนด์ที่มีเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นทุกปี แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาในตลาดได้ไม่นานนัก อย่าง “เอ็มจี” ซึ่งการที่จะไปถึงเป้าหมายได้นั้นในยุคนี้สมัยนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่แบรนด์นี้มีความเชื่อถึงการก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้จะเป็น 1 ใน 5 อันดับ แบรนด์รถยนต์ด้านยอดขายแถวหน้าของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้

พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ใน 1-2 ปีจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรือธงหลักในการทำตลาดคือ เอ็มจี แซดเอส และเอ็มจี 3 โดยหลังจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางอีกครั้งในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยืนยันว่าจะเดินหน้านำรถกระบะมาเป็นอีกส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัท และขณะนี้อยู่ระหว่างการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่เน้นการใช้งานส่วนบุคคลเป็นหลัก เบื้องต้นคาดว่ารถกระบะจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์แบบกลางๆ ก่อนเพื่อผลักดันให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาด ซึ่งจะต้องแข่งขันได้ในตลาด

ขณะที่อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถตู้อเนกประสงค์ขนาด 11 ที่นั่งที่เดิมทีมีแผนจะต้องแนะนำลงสู่ตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความไม่ชัดเจนด้านกฎหมายจึงต้องชะลอออกไปก่อนและมีการปรับแผนในการศึกษาปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบ 9 ที่นั่ง ซึ่งต้องพยายามทำราคาให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด

“ผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ ของ เอสเอไอซี มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ‘เอ็มจี’ นั้น มีความหลากหลาย จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะทำงานร่วมกันเพื่อเลือกรถยนต์แบรนด์อื่นในต่างประเทศมาแนะนำลงสู่ตลาดในประเทศไทยตามความเหมาะสม” พงษ์ศักดิ์ กล่าว

สำหรับแผนระยะยาวของบริษัทมีเป้าหมายการเป็น 1 ใน 5 ของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยซึ่งคาดว่าภายในปี 2563 จะมียอดขายอยู่ในระดับ 1 แสนคันตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้านบริษัทแม้ที่ประเทศจีน ตั้งเป้าเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทรนด์อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (ไอโอที) ภายในปี 2573 ดังนั้น เอสเอไอซี มอเตอร์ จะได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีมาสู่ประเทศไทยจึงเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศไทยที่จะเสนอเทคโนโลยีสมาร์ทคาร์ในรถยนต์ด้วยการเชื่อมต่อของคนและรถ โดยในอนาคตจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีในลักษณะดังกล่าวในรถยนต์ “เอ็มจี” ทุกรุ่น รวมถึงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเอ็มจีถือว่าประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งด้วยยอดขายที่สะท้อนการตอบรับที่ดีของผู้บริโภค โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในการขยายการลงทุนทั้งโรงงานผลิตรถยนต์ประเทศไทย รวมถึงการขยายศูนย์จำหน่ายและบริการอย่างต่อเนื่อง โดย 2 ส่วนสำคัญที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จคือ 1.ผลิตภัณฑ์ และ 2.เครือข่ายผู้จำหน่าย ซึ่งหลังจากนี้จะมีทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเส้นทางไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายตามแผนที่วางไว้