posttoday

ค้าปลีกแบ่งขั้ว คาดแข่งขันเดือด

09 กุมภาพันธ์ 2559

นายกสมาคมค้าปลีก เตือนหลังกลุ่มเจริญซื้อกิจการบิ๊กซี อาจเกิดการกีดกันการค้ามากขึ้น

นายกสมาคมค้าปลีก เตือนหลังกลุ่มเจริญซื้อกิจการบิ๊กซี อาจเกิดการกีดกันการค้ามากขึ้น

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยหลังกลุ่มคาสิโน ฝรั่งเศส ออกมาประกาศว่าได้ขายหุ้นที่ถือในบิ๊กซีทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 58% เป็นเงินเบื้องต้นกว่า 1.22 แสนล้านบาท ให้กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ว่า สิ่งที่กังวลก็คือ การที่กลุ่มนายเจริญมีธุรกิจครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จากเป็นผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ไปสู่ธุรกิจค้าปลีก โอกาสเกิดการกีดกันการค้าสินค้าคู่แข่ง โดยเอื้อให้กับสินค้าแบรนด์ของตัวเองมีความเป็นไปได้สูง อาจถึงขั้นแบ่งขั้วซัพพลายเออร์จำหน่ายสินค้าให้กับเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี

นายชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกฝ่ายวิชาการสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การซื้อหุ้นบิ๊กซีครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะธุรกิจค้าปลีกส่งผลให้กลุ่มนายเจริญมีธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับจัดจำหน่ายสินค้าในเครือ อาทิ ไทยเบฟเวอเรจ โออิชิ กรุ๊ป เอฟแอนด์เอ็น เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ โดยเอื้อประโยชน์สินค้าให้มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน เช่น การจัดวางสินค้าให้มีความโดดเด่น จัดทำโปรโมชั่นสินค้าได้ถูก

นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องตราโรซ่า กล่าวว่า การที่กลุ่มนายเจริญซื้อกิจการบิ๊กซี ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับวงการซัพพลายเออร์ ทำให้ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตไม่ถูกผูกขาดทางการค้าของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากจนเกินไป และยังเป็นกลุ่มที่มีทุนมหาศาล สามารถขยายสาขาทัดเทียมกับคู่แข่งอย่างเทสโก้ โลตัส ของกลุ่มทุนอังกฤษ

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มค้าปลีกไทยอีก 5 ปี ยังโตปีละ 5% เมื่อเทียบค้าปลีกเวียดนามและอินโดนีเซียโตกว่า 10% มองว่าไทยยังโตยั่งยืน เนื่องจากการเข้าใช้บริการร้านสะดวกซื้อ 46% ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของคนไทย 46%  อีกกว่า 10% ใช้บริการในห้างสรรพสินค้า ซึ่งบิ๊กซีอยู่ในเซ็กเมนต์ขนาดใหญ่ และสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี รองจากร้านสะดวกซื้อ

ด้าน น.ส.รำภา คำหอมรื่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และรองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า บริษัทได้รับแจ้งจากกลุ่มคาสิโนว่า Geant International BV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ว่าได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งสิ้น 483,077,600 หุ้น คิดเป็น 58.56% ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 252.88 บาท รวมเป็นเงินกว่า 1.22 แสนล้านบาท คาดว่าการซื้อขายหุ้นจะเกิดขึ้นไม่เกินวันที่ 31 มี.ค. 2559

ผลดังกล่าวนอกจากทำให้หุ้นบิ๊กซีเพิ่มขึ้นแรง 22 บาท หรือ 9.69% ปิดที่ 249 บาทแล้ว ยังส่งต่อให้หุ้นกลุ่มนายเจริญปรับขึ้น เช่น บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ บวก 3.50 บาท หรือ 10.61% ราคาปิดที่ 36.50 บาท บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ บวก 0.35 บาท หรือ 5.69% ปิดที่ 6.50 บาท และบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ บวก 0.35 บาท หรือ 5.69% ปิดที่ 6.50 บาท