"สโลว์ไลฟ์" ในสิงคโปร์ กับปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

มีโอกาสเดินทางในฐานะหนึ่งในตัวแทนสื่อประเทศไทย เพื่อไปสัมผัสกับรถยนต์ระดับพรีเมียมที่ได้ชื่อชั้นด้านการออกแบบหน้าตาละม้ายคล้ายกบอย่าง “ปอร์เช่” โดยคำเชื้อเชิญของ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บินลัดฟ้าไปสู่ประเทศสิงคโปร์เพื่อร่วมกิจกรรม “The Boxster GTS Regional Media Drive in Singapore”

รูปแบบการลองขับครั้งนี้ของ “โพสต์ทูเดย์” ซึ่งแตกต่างจากเดิมไม่เหมือนครั้งใดตรงที่ ปกติ “ปอร์เช่” จะเน้นสมรรถนะการขับขี่เป็นหลัก บ้างจัดทดสอบในสนามแข่ง บ้างจัดในพื้นที่ปิด เพื่อรีดประสิทธิภาพการขับขี่ออกมาให้เห็นอย่างเต็มๆ แต่ครั้งนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะกำหนดการถูกจัดขึ้นอย่างสบายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว

เมื่อล้อแตะรันเวย์สนามบินที่สิงคโปร์ จากนั้นมีรถมาเทียบท่ารอรับไปที่โรงแรมใหญ่ใจกลางเมืองจึงได้เข้าใจ เพราะมีเพียงเจ้าหน้าที่ 1 คน หิ้วแท็บเล็ตแต่งตัวโก้เก๋มาบรรยายสรุปตัวผลิตภัณฑ์ เสร็จสรรพไม่รอช้า โยนกุญแจให้พร้อมนำพาไปที่เจ้า “ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส” จอดอยู่พร้อมกล่าวคำอวยพรขอให้เอ็นจอยกับการขับขี่ในประเทศนี้

สิ่งเดียวที่ทำให้ล้อหมุนเคลื่อนไปตามที่ต่างๆ ในประเทศสิงคโปร์ คือ ระบบนำทาง (เนวิเกชั่น) ที่ถูกกำหนดไว้ให้อย่างละเอียดยิบ จุดหมายต่างๆ ถูกกำหนดเส้นทางที่ผ่านสภาพการจราจรรูปแบบต่างๆ โดยเน้นบริเวณใกล้เมืองเป็นหลัก ข้อสงสัยทั้งหมดจึงสิ้นสุดลง ด้วยคำนิยามการขับขี่ครั้งนี้แบบแนว “ไลฟ์สไตล์” หลักใหญ่ใจความ เพื่อให้ได้รับรู้ถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

ฉะนั้น หนึ่งวันในสิงคโปร์จึงได้จำลองตัวเองเป็นเจ้าของ “ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส” คันนี้ ขับชมเมืองไปตามเนวิเกชั่น อารมณ์ความรู้สึกต้องบอกเลยว่าได้รับประสบการณ์ใหม่ ใช้ชีวิต “สโลว์ไลฟ์” กินลมชมวิวไปเรื่อยแต่สัมผัสได้ถึงเจ้ารถระดับพรีเมียมคันนี้ ที่เป็นรถสปอร์ตที่สามารถใช้งานได้จริงทุกวัน เพราะตลอดระยะเวลา 4-5 ชั่วโมงบนรถ และสภาพการจราจรหลากรูปแบบทั้ง ถนนไฮเวย์ ถนนในเมือง ถนนในสวนสาธารณะ ยังคงให้ความสะดวกสบายได้ตลอดการเดินทางพร้อมความภาคภูมิใจในการดึงดูดสายตาผู้พบเห็นเจ้ารถทรงกบนี้ได้เป็นอย่างดี

เสียงเครื่องยนต์ที่กระหึ่มลอดเข้ามาภายในห้องโดยสาร สามารถกระตุ้นความรู้สึกได้ดีกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียงนอน ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า ที่ 4,750-5,800 รอบ/นาที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยระยะเวลา 4.7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 280 กม./ชม. ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Doppelkupplungsgetriebe (PDK) 6 สปีด และอีกจุดเด่นสำคัญคือ เป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ สามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่และการเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพ จึงหายห่วงได้เลยถึงสมรรถนะที่สามารถตอบสนองได้อย่างถึงอกถึงใจซึ่งมีโอกาสในบางช่วงที่ได้สัมผัสความรู้สึกนั้น

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากด้วยสีดำตัดเมทัลลิก สัมผัสได้ถึงความเป็นสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและลูกเล่นต่างๆ มีมาให้อย่างเพียบพร้อมและสามารถปรับได้ตามความชอบอย่างละเอียด อีกทั้งหลังคาผ้าใบสีดำตัดกับรถสีขาวในคันที่ได้ขับอยู่นี้ ใช้ระยะเวลาเปิดปิดเพียงไม่กี่วินาทีหากเปิดรับลมตอนแสงแดดยามเย็นก็สบายดีได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบ

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ทำให้ “ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส” เป็นรถสปอร์ตเครื่องวางกลางดีไซน์ทรงกบที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ตอบสนองการใช้งานหลากหลาย และที่สำคัญสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ด้วยราคาค่าตัวที่ 11.5 ล้านบาท

อยากลองสัมผัสชีวิตดี๊ดี กับอารมณ์ของรถสปอร์ตคันนี้ ก็ลองไปดูที่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส แล้วกัน เผื่อจะได้หิ้วรถสปอร์ตติดไม้ติดมือกลับบ้านไปใช้ในชีวิตประจำวันดูบ้าง