โพลนักเศรษฐศาสตร์ชี้ดัชนีเชื่อมั่นศก.ไทยต่ำสุดรอบ3ปีครึ่ง
กรุงเทพโพล เผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทย พบปัจจุบันต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง แตะ 17.85 จ่อแย่ลงอีกใน 3 เดือนข้างหน้า
กรุงเทพโพล เผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทย พบปัจจุบันต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง แตะ 17.85 จ่อแย่ลงอีกใน 3 เดือนข้างหน้า
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 60 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 8 – 17 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่า
ค่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 36.99 เป็น 17.85 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับจากมีการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ (หรือต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง) และการที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากสะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ด้านดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีปรับตัวลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าและอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจจะแย่ลงอีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ส่วนดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า แม้ค่าดัชนีจะปรับตัวลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าเช่นเดียวกัน แต่การที่ค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนเห็นเห็นถึงความเชื่อมั่นที่คาดว่าเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่จะคอยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวคือ การส่งออก การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐจะยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจต่อไป
ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 67 เห็นว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงถดถอย รองลงมาร้อยละ10 เห็นว่าอยู่ในช่วงขยายตัว ร้อยละ 5 เห็นว่าอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) และร้อยละ 2 เห็นว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด จะพบว่า วัฏจักรมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
(1) เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก และจะแย่ลงอีกใน 3 เดือนข้างหน้า
(2) เศรษฐกิจไทยในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นโดยภาคการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยประคองเศรษฐกิจไม่ให้แย่ลงไปกว่านี้ ส่วนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐจะยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจต่อไป
(3) วัฏจักรเศรษฐกิจมีการเคลื่อนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น