posttoday

ไทยชาติแรกประเดิมดาวเทียม"เป่ยโตว"

28 ธันวาคม 2556

ประเทศไทยเป็นต่างชาติรายแรกที่ลงนามข้อตกลงติดตั้งระบบดาวเทียมบอกพิกัดเป่ยโตวของจีน

ประเทศไทยเป็นต่างชาติรายแรกที่ลงนามข้อตกลงติดตั้งระบบดาวเทียมบอกพิกัดเป่ยโตวของจีน

เว็บไซต์สำนักข่าวซีซีทีวี รายงานว่า ดาวเทียมบอกพิกัดของจีนดวงนี้สร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับคู่แข่งสำคัญอย่างอเมริกาที่ใช้ระบบ GPS และระบบ GLONASS ของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม โครงการเป่ยโต่วนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจช่วงที่ 2 ให้เสร็จสมบูรณ์โดยจะต้องปล่อยดาวเทียมขึ้นไปยังวงโคจรทั้งหมด 35 ดวง ภายในปี 2563 ซึ่งระบบนี้จะใช้ในการจัดทำแผนที่ รายงานข้อมูลสภาพอากาศ รวมถึงใช้ในการติดต่อสื่อสาร Ffpโครงการยักษ์ของจีนนี้พร้อมแล้วที่จะดึงดูดความสนใจจากลูกค้าทั่วโลก แม้จะเพิ่งเริ่มใช้งานได้เพียงแค่ปีเดียว

ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกประเทศจีนที่ลงนามข้อตกลงในการใช้เป่ยโต่ว โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ของไทยได้สร้างสถานีรับส่งสัญญาณดาวเทียมภาคพื้นดินห่างจากกรุงเทพราว 150 กิโลเมตร เพื่อให้วิศวกรและช่างเทคนิคดำเนินงานด้านการสื่อสารกับดาวเทียมในวงโคจร โดยใช้เงินลงทุนสร้างระบบในไทยราว 320 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วงที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2554 ไทยก็ใช้ระบบเป่ยโต่วคาดการณ์พื้นที่ที่อาจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

“ระบบเป่ยโตวเพิ่งจะเกิดขึ้นหลังจากระบบจีพีเอสเกือบ 20 ปี แต่ผมมั่นใจว่าความแม่นยำของระบบนี้น่าจะมีศักยภาพดีกว่าเดิม เพราะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ บางทีเป่ยโตวน่าจะดีกว่าประมาณ 10 เท่า เห็นได้ว่า จีพีเอสใช้ทั่วทั้งโลกและมันเป็นระบบนำทางทั้งในรถยนต์และรถบรรทุก รวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครื่องต้องมีระบบจีพีเอส ปัจจุบันจีนเข้าสู่ตลาดโลกด้วยระบบนำทางด้วยดาวเทียม (GNSS system) ซึ่งมีการผลิตทั้งฮาร์ดแวร์และชอฟต์แวร์ ซึ่งมันสะท้อนความยิ่งใหญ่ของจีนว่าพวกเขาสามารถผลิตเทคโนโลยีระกับสูงได้” รวิต สชาสิริ ผู้จัดการระบบภาคพื้นดินกล่าว

จีนพัฒนาเป่ยโตวที่มีประสิทธิภาพเยี่ยมด้านระบบจีพีเอส เพื่อใช้งานในกองทัพ ต่อมาก็เริ่มขยายการใช้งานมายังภาคพลเรือน เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งมีเป้าหมายที่จะดึงให้ประเทศอื่นๆ ในเอเชียเข้ามาใช้บริการด้วย โดยเริ่มตั้งสถานีรับส่งสัญญาณที่ปากีสถานและทำข้อตกลงกับไทยในการใช้งานระบบ

เป่ยโตวถูกใช้งานครั้งแรกในการส่งข้อมูลมหาศาลเพื่อใช้สำหรับวางแผนฉุกฉิน และใช้งานภายในกองทัพจีนเพื่อติดตามและระบุตำแหน่งของราชายาเสพติด “หน่อคำ” ที่สังหารกลาสีชาวจีน 13 คนบริเวณภาคเหนือของไทย

การที่ไทยทำข้อตกลงในการใช้ระบบเป่ยโตว ถือเป็นก้าวสำคัญของจีน เพราะจีนก็หวังว่าประเทศอื่นๆ จะหันมาใช้ระบบนี้มากขึ้น ถ้าประสบความสำเร็จในไทย โดยมีลาวและบูรไนเป็นอีกสองประเทศที่ทำข้อตกลงในการใช้ระบบนี้ แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเข้าไปแชร์ตลาดนอกจีน แต่จีนก็วางแผนขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งน่าจะครอบคลุมทั่วโลกภายในสิบปี

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ได้ละทิ้งระบบจีพีเอส แต่จะใช้ทั้งสองระบบเพื่อเพิ่มความแม่นยำและเป็นดาวเทียมสำรอง ถ้าระบบใดระบบหนึ่งไม่สามารถใช้งานได้