posttoday

สยามพิวรรธน์รับอานิสงส์ลดภาษีของหรู

13 กันยายน 2556

สยามพิวรรธน์ยิ้มรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย โชว์ลูกค้าต่างชาติเข้าสยามเซ็นเตอร์พุ่งหลังปรับโฉมใหม่

สยามพิวรรธน์ยิ้มรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย โชว์ลูกค้าต่างชาติเข้าสยามเซ็นเตอร์พุ่งหลังปรับโฉมใหม่

นางแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอน เปิดเผยว่า หากภาครัฐปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจริง เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของไทยให้ขยายตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ เพราะการปรับลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และคนไทยหันมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมในประเทศมากขึ้น และที่สำคัญคือจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันราคาสินค้าแบรนด์เนมสู้กับฮ่องกงและสิงคโปร์ได้

“แต่ราคาสินค้าแบรนด์เนมจะลดลงเท่าไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของแบรนด์สินค้าว่าจะคำนวณต้นทุนและต้องการกำไรมากน้อยแค่นั้น”นางเมอร์ฟีย์ กล่าว

ขณะเดียวกันนโยบายดังกล่าว จะส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 เท่าตัว เพราะนอกจากจะดึงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์เนมในประเทศได้แล้ว ยังถือเป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมในประเทศอีกด้วย

ขณะที่ในส่วนของสยามพิวรรธน์เองมีพื้นที่ค้าปลีกรองรับลูกค้าแบรนด์เนมที่สนใจติดต่อขอนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายทั้งในศูนย์การค้า 3 แห่ง และเดินหน้าพัฒนาโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามแผนงานเดิมที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีสินค้าแบรนด์เนมกว่า 100 รายติดต่อเข้าไปเปิดให้บริการในโครงการดังกล่าว

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทได้ดึงสินค้าแบรนด์ดังประมาณ 30 แบรนด์ เข้ามาเปิดสโตร์ภายในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เช่น เซโฟร่า วิคตอเรีย ซีเคร็ท บิวตี้ แอนด์ แอกเซสซอรี และพูลแอนด์แบร์ โดยผู้ประกอบการใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างร้านรวมกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะกระตุ้นให้ลูกค้าคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้น

ปัจจุบันศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์มีผู้เข้ามาจับจ่ายในวันธรรมดาประมาณ 1-1.2 แสนคนต่อวัน ขณะที่วันหยุด 1.5-2 แสนคนต่อวัน ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 40% คนไทย 60% ซึ่งในสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้ปรับเพิ่มขึ้นมาจากก่อนหน้านี้ที่มีสัดส่วนเพียง 30% และจากการนำแบรนด์สินค้าใหม่เข้ามาเปิดให้บริการคาดว่าปลายปีนี้จะมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มเป็นกว่า 50%

สำหรับแผนการทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทได้เตรียมใช้งบกว่า 200 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น คาดกระตุ้นยอดขายให้เติบโต 20-30% จากช่วงปกติ