คณะอนุผู้บริโภคเรียกร้องปรับมือถือเพิ่ม
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกร้องกสทช. ขยับค่าปรับค่ายมือถือตัดเงินพรีเพดมากกว่าวันละ 1 แสนบาท
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกร้องกสทช. ขยับค่าปรับค่ายมือถือตัดเงินพรีเพดมากกว่าวันละ 1 แสนบาท
น.ส.สารี อ่องสมหวัง ประธานคณะอนุกรรมกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า เตรียมยื่นหนังสือให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ทบทวนค่าปรับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กรณีตัดเงินในระบบบัตรเติมเงิน หรือ พรีเพด ให้มากกว่าวันละ 1 แสนบาท เพื่อให้เหมาะสมกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกกว่าเดือนละ 9,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ค่าปรับดังกล่าวเป็นไปตามประกาศกสทช.เรื่องมาตราฐานของสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ที่ได้กำหนดให้บริการพรีเพดไม่มีวันหมดอายุ แต่ผู้ให้บริการไม่ได้ปฏิบัติตาม กสทช.จึงมีคำสั่งปรับวันละ 1 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.2555 ที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุที่ต้องการให้กสทช. เพิ่มค่าปรับนั้น เพราะเห็นว่า หากยึดตามมูลค่าเดิม เอกชนจะชำระเฉลี่ยเพียง 3 ล้านบาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเสียหายของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น โดยพบว่ายังมีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากสทช.มีคำสั่งปรับแล้วก็ตาม
น.ส.สารี กล่าวว่า มูลค่า 9,800 ล้านบาทมาจากผลการศึกษาของกสทช.เกี่ยวกับการใช้งานระบบพรีเพดพบว่า มีการใช้งานเฉลี่ย เดือนละ 160 บาท ขณะที่บริษัทผู้ให้บริการได้กำหนดระยะเวลาการใช้บริการให้ผู้บริโภคต้องเติมเงินเข้าระบบที่เดือนละ 300 บาท ซึ่งฐานผู้ใพรีเพดปัจจุบันอยู่ที่ 70 ล้านเลขหมาย ทำให้มีเงินเกินในระบบเดือนละ 9,800 ล้านบาท
“ขณะนี้ บริษัทเอกชนยังไม่ได้จ่ายค่าปรับ ซึ่งแม้กำลังจะอยู่ในช่วงการยื่นอุทรณ์ แต่ก็ไม่ควรที่จะมีการกำหนดวันอายุอีก และการจ่ายค่าปรับก็ควรที่จะดำเนินการอย่างถูกต้อง” น.ส.สารีกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากกสทช.ได้มีคำสั่งปรับผู้ให้บริการเอกชน ทางบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอสได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอุทธรณ์คำสั่งของกสทช. ที่สั่งปรับวันละ 1 แสนบาท ขณะที่ผู้บริโภคได้ยื่นฟ้องศาลแพ่งกรณีบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือตัดเงินในระบบ ดังนั้น กระบวนการทั้งหมดจึงอยู่ในขั้นตอนของศาล