เซ็นทรัลจัดงบ7.8พันล.ลงทุน5ปี

ห้างเซ็นทรัล กำงบลงทุนใน5ปีเฉียด8 พันล.บาท ผุด 8 สาขาในไทย/อาเซียน หวังเป็นผู้นำห้างฯอันดับ1

นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล หรือ ซีดีเอส ในเครือบริษัทเซ็นทรัลคอร์ปอเรชั่น(ซีอาร์ซี) เปิดเผยว่าแผนลงทุนใน5 ปีนับจากนี้ บริษัทเตรียมงบราว 7,800 ล้านบาท แบ่งเป็นขยายสาขาใหม่ห้างฯเซ็นทรัลในไทย ราว4-5 แห่ง ใช้งบลงทุน1,200 ล้านบาทต่อสาขา และ3สาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) คาดใช้งบลงทุน500-600ล้านบาท/สาขา

ทั้งนี้ บริษัทคาดหลังจากเดือนส.ค.นี้ จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดโครงการฯ สาขาใหม่ในต่างประเทศได้อย่างเป็นทางการว่าเป็นประเทศใดในกลุ่มอาเซียน พร้อมเปิดตัวทีมงานที่รับผิดชอบธุรกิจต่างประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการบริหารธุรกิจต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้บริหารที่มาจากตระกูลจิราธิวัฒน์

สำหรับตลาดต่างประเทศที่จะเข้าไปเปิดให้บริการนั้นในเบื้องต้นจะลงทุนเอง เพื่อเช่าอาคารสำหรับพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกขนาด2หมื่นตร.ม.ขึ้นไป โดยในสิ้นปีนี้เตรียมเปิด1 สาขาใหม่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เป็นแห่งที่4 จากในปี53 เปิดสาขาแรกที่หังโจว และในเมืองเสิ่นหย่าง มี 2 แห่ง คือ ห้างเซ็นทรัล และเซน ซึ่งเปิดให้บริการในปีก่อน และพิจารณาขยายสาขาใหม่ในต่างประเทศไปพร้อมกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา(ซีพีเอ็น)ด้วย

ทั้งนี้ จากแผนดังกล่าวบริษัทวางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้าในภูมิภาคอาเซียน จากปัจจุบันหากนับรวมธุรกิจค้าปลีกประเภทต่างๆในครือซีอาร์ซี พบว่ามียอดขายสูงสุด โดยในสิ้นปี55นี้ คาดอยู่ที่1.6 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน(เออีซี)ในอนาคตที่จะผลักดันให้ค้าปลีกในภูมิภาคนี้มีความคึกคักและเติบโต

ขณะที่คู่แข่งสำคัญของไทยในตลาดค้าปลีกห้างสรรพสินค้าในอาเซียน คือ ห้างซีเค แทง(CK Tang)ของสิงคโปร์มีอายุ80ปี, ห้างพาร์คซัน(Parkson) มาเลเซีย มีอายุ25ปี ซึ่งแบรนด์หลังมีการขยายสาขาในต่างประเทศทั้งจีน, เวียดนามและกัมพูชา เป็นต้น รวมถึงห้างรัสแทน’ส(Rustan’s) ในฟิลิปปินส์ เป็นต้น ส่วนห้างฯเซ้นทรัล มีอายุ65 ปีในปัจจุบัน   

สำหรับ การเปิดสาขาใหม่ในประเทศในปี56 บริษัทจะเปิด2 สาขา คือ สาขาในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ และสาขาในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ มีพื้นที่แต่ละสาขากว่า 2.5หมื่นตร.ม. และอีก 3 สาขาใหม่จะเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในอนาคตเพื่อรองรับกำลังซื้อในประเทศที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสินค้าหรูหรา(ลักชัวรี)

ทั้งนี้ในครึ่งปีหลัง มีความเป็นห่วงเรื่องการเมืองมากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจและอารมรณ์การจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคในภาคค้าปลีกโดยรวม ซึ่งอยากเห็นภาคการเมืองมีความสงบสุข อยากให้ทุกคนเคารพกฎกติกา จากปัจจุบันประเทศไทยถือว่าดีมาก จากตำแหน่งห้างสรรพสินค้าระดับโลก(เวิลด์ คลาส ออฟ ดีพาร์ทเมนต์) ที่ติดอันดับ1ใน3 เมื่อปี53

ขณะที่แนวทางการทำตลาดปีนี้ จะใช้กลยุทธ์ ‘ออมนิ ชานแนล มาร์เก็ตติง’ เพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าในช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย, สมาร์ทโฟน เป็นต้น และเตรีบมงบกว่า100 ล้านบาทฉลองครบรอบ 65ปีในปีนี้ ภายใต้แนวคิด ‘มายเวิลด์ มาย เซ็นทรัล’ และกิจกรรมโปรโมชันอื่นๆ โดยสิ้นปี55 คาดตั้งเป้าเติบโตจากปี54 เพิ่มขึ้น 16.2% หรือคิดเป็นมูลค่า3.5หมื่นล้านบาท