posttoday

สมุนไพรไล่ยุง ‘Nitichai’ กลิ่นหอมลงตัว ถูกใจคนใช้

22 กุมภาพันธ์ 2553

กลยุทธ์ที่จะช่วยให้สินค้ามียอดขายโตต่อเนื่อง คือพยายามหาสินค้าใหม่ๆ ป้อนตลาด ที่เน้นทั้งเรื่องคุณภาพ ความแปลกใหม่ในเรื่องกลิ่นหอมสมุนไพร

กลยุทธ์ที่จะช่วยให้สินค้ามียอดขายโตต่อเนื่อง คือพยายามหาสินค้าใหม่ๆ ป้อนตลาด ที่เน้นทั้งเรื่องคุณภาพ ความแปลกใหม่ในเรื่องกลิ่นหอมสมุนไพร

โดย...ชนิกา สุขสมจิตร / ภาพ...พงษ์ไทย วัฒนาวณิชย์วุฒิ

หลายครั้งที่วิกฤตกลายเป็นโอกาสทองในการทำธุรกิจ เมื่อมีความมุ่งมั่นที่อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว คงไม่ยากเช่นเดียวกับ ตฤณศิษฐ์ ไตรวีระพงศ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ สมุนไพรไล่ยุง “Nitichai” ที่เกือบหมดกำลังใจกับการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องหอมเล็กๆ ในตลาดนัดจตุจักร เพราะประสบกับปัญหายอดขายตกต่ำเมื่อปี 2546 จนที่สุดผันตัวเองจากการเป็นผู้จำหน่ายขึ้นมาเป็นผู้ผลิตด้วย กระทั่งสามารถขยายกิจการกลับมาเติบโตได้ตามลำดับ

สมุนไพรไล่ยุง ‘Nitichai’ กลิ่นหอมลงตัว ถูกใจคนใช้ ตฤณศิษฐ์

ตฤณศิษฐ์ ยึดหลักการทำงานที่ว่า “ต้องแข่งขันกับตัวเองจึงจะประสบความสำเร็จ” และด้วยประสบการณ์ที่สะสมจากการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องหอมมานาน มีโอกาสได้เรียนรู้เทคนิคการทำธูปหอม กำยาน ยากันยุง ที่ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรไทย จึงทำให้ความฝันที่จะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองกลายเป็นจริงขึ้น ภายใต้แบรนด์สินค้า “Nitichai” สมุนไพรไล่ยุง

“ที่ตัดสินใจหันมาเป็นผู้ผลิตสินค้าเอง เพราะเห็นว่าตลาดของเครื่องหอมมีโอกาสเติบโต และมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ยุ่งยากอาศัยที่อยู่ในวงการนี้มานาน จากที่เป็นผู้ซื้อมาขายไป ทำให้มีโอกาสเรียนรู้สะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ อีกทั้งตลาดเครื่องหอมสามารถขยายไลน์สินค้าได้มาก จากการใช้วัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรไทย รองรับได้ทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ จนทำให้ทุกวันนี้สามารถยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้”

สินค้าสมุนไพรไล่ยุงที่ผลิต มีขายทั้งแบบขายส่ง ไม่ติดแบรนด์ ลูกค้านำไปขายต่อได้ กับ ขายปลีก มีแบรนด์ “Nitichai” วางจำหน่ายที่ตลาดนัดจตุจักร และตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการ

ส่วนใหญ่ผลิตสินค้าออกมาจะเน้นขายส่งมากกว่า เพราะมีฐานลูกค้าอยู่ในจตุจักรอยู่แล้ว มีความคุ้นเคยกันดี การทำตลาดจึงไม่ยาก เทียบกับการขายปลีก หรือการเปิดร้านของตัวเอง มีต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการวางจำหน่ายในห้าง ถูกหักค่าวางสินค้า ถ้าใช้วิธีแบบขายส่งกลับได้กำไรมากกว่า และไม่ต้องเหนื่อยมาก

ปัจจุบัน สินค้าที่จำหน่ายอยู่ 3 ชนิด คือ

1.กำยานสนาม มีคุณสมบัติเป็นยากันยุงชนิดกรวย

2.ยากันยุงชนิดขด

สมุนไพรไล่ยุง ‘Nitichai’ กลิ่นหอมลงตัว ถูกใจคนใช้

และ 3.กำยานหอม ใช้สมุนไพรไทยเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต เช่น ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน และสมุนไพรอื่นๆ ในขณะที่กลิ่นของกำยานหอมก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ดอกแก้ว ดอกโมก ลาเวนเดอร์ กุหลาบ เป็นต้น

จุดเด่นของสินค้า ตฤณศิษฐ์ ระบุว่า น่าจะอยู่ที่กลิ่นหอมที่ได้จากสมุนไพรไทยหรือกลิ่นดอกไม้ ที่เป็นการคิดสูตรผสมด้วยตัวเอง ถือเป็นสินค้าโอท็อปที่ผลิตจากฝีมือคนไทย

ราคาจำหน่าย หากเป็นยากันยุงทั่วไปจำหน่ายห่อละ 35 บาทเท่านั้น มีจำนวน 10 ขดต่อซอง เป็นระดับราคาที่ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณสมบัติของสมุนไพรไทย

ในส่วนแผนการตลาดที่วางไว้ จะพยายามหาตลาดขายส่งให้มากขึ้น เพราะมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่า โดยจะขายให้ในราคาที่ถูกกว่าหน้าป้ายประมาณ 40% ดังนั้นผู้ที่ซื้อไปขายต่อจะได้กำไรทันที เพียงแต่ผู้ซื้อจะต้องมีช่องทางจำหน่ายตั้งอยู่ในทำเลที่ดีด้วย

“หลายคนถามผมว่าทำไมไม่คิดที่จะสร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แทนที่จะเน้นการขายส่ง แต่ผมมองว่าการขายส่งมีโอกาสขยายตลาดได้มากกว่า อาจเป็นเพราะที่ตัวสินค้าก็ได้ เพราะสินค้าเครื่องหอมต้องอาศัยช่องทางจำหน่ายที่แข็งแรง”

ทุกวันนี้ ตฤณศิษฐ์ ขายส่งให้กับร้านเครื่องหอมที่อยู่ในจตุจักรหลายร้าน มีทั้งสั่งเป็นแบรนด์ของเขา หรือสั่งแบบขายส่งแล้วไปติดแบรนด์ของผู้ซื้อเองก็มี โดยรวมแล้วมีลูกค้าขายส่งอยู่ประมาณ 10 ราย มีประมาณ 5-6 รายที่ไปติดแบรนด์เอง เฉลี่ยมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์สินค้ายากันยุงหลักแสนขด

สมุนไพรไล่ยุง ‘Nitichai’ กลิ่นหอมลงตัว ถูกใจคนใช้

หากเทียบกับรายได้ในลักษณะขายส่งกับขายปลีกแล้ว ยอมรับว่าขายส่งได้ราคาดีกว่าแม้จะขายในราคาที่ถูกกว่า แต่ที่ยังต้องทำแบรนด์ของตัวเองไปด้วย เป็นหลักจิตวิทยาทางการตลาด เพราะลูกค้าขายส่งมีความมั่นใจในคุณภาพสินค้ามาจากแบรนด์ Nitichai จึงจำเป็นต้องรักษาแบรนด์นี้ไว้ต่อยอดธุรกิจขายส่งให้เป็นที่รู้จัก

ในปีนี้จะพยายามเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด สินค้าที่เตรียมจะออกในช่วง 2-3 เดือนนี้ เป็นธูปหอมสำหรับไหว้พระ มีทั้งหมด 6 กลิ่น เป็นสูตรผสมเครื่องหอมที่คิดขึ้นมาใหม่ ไม่แสบตา เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป

เมื่อสำรวจตลาดเครื่องหอมในปัจจุบันแล้วมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ในมุมมองของเขาแล้วกลับมีความคิดว่าไม่รู้จะไปแข่งขันกับใคร แต่ให้แข่งกับตัวเองมากกว่า เพราะปัจจุบันมีบริษัทใหญ่ๆ ระดับประเทศผลิตกันอยู่แล้วจำนวนมาก แถมมีการกดราคาที่ถูกกว่ากล่องละ 12-15 บาท

ดังนั้น จะไปแข่งกับเขาคงไม่ได้ กลยุทธ์ที่จะช่วยให้สินค้ามียอดขายโตต่อเนื่อง คือพยายามหาสินค้าใหม่ๆ ป้อนตลาด ที่เน้นทั้งเรื่องคุณภาพ ความแปลกใหม่ในเรื่องกลิ่นหอมสมุนไพร เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

“ผมต้องการให้ธุรกิจค่อยๆ โตทีละก้าว แบบมั่นคง ทุกวันนี้ตลาดเครื่องหอมก็โตแบบก้าวกระโดดสวนกระแสเศรษฐกิจอยู่แล้ว ฉะนั้นการขยายธุรกิจคงเดินไปตามสภาพเงินในกระเป๋ามากกว่า ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีอย่าลงทุนอะไรเพิ่มเติม เพราะจะทำให้เกิดปัญหาทางการเงิน กระทบกับธุรกิจในอนาคต ผมพอใจกับธุรกิจในระดับนี้ที่เป็นของตัวเอง และเป็นของคนไทย แบบพอเพียง” ตฤณศิษฐ์ ทิ้งท้าย

สนใจสมุนไพรไล่ยุง สอบถามได้ที่โทร. 08-1337-1810