posttoday

โอกาสจากความชอบ (การ์ตูน)

26 พฤศจิกายน 2563

คอลัมน์ Great Talk

ถึงคุณเกรท

ลูกดิฉันชอบเอาเวลาไปเล่นแต่เกมกับอ่านการ์ตูนไม่ค่อยสนใจเรียนเลยค่ะ ทำอย่างไรดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

ว่าด้วยเรื่องของการ์ตูน

ในสมัยก่อน เวลาเราจะเล่นเกมหรืออ่านการ์ตูน ที่บ้านของเรามักจะบอกว่าไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ อ่านการ์ตูนไปไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาหรือเล่นเกมมากๆตาจะเสียแถมเสียสุขภาพด้วย

แต่ผมกลับมองว่าการ์ตูนให้อะไรมากกว่าที่คนที่ไม่เคยอ่านจะคิดได้ เช่น เรื่องราวชีวิตบางอย่างของนักเขียนการ์ตูนถูกถ่ายทอดลงไปบนผลงานของเขาหรือความลำบากตรากตรำที่นักเขียนการ์ตูนต้องประสบพบเจอกว่าเขาจะได้ออกตีพิมพ์เป็นการ์ตูนยอดฮิตได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

การทำงานของนักเขียนการ์ตูน

นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นจะต้องส่งต้นฉบับให้ทันในทุกสัปดาห์ซึ่งจำนวนที่ต้องวาดขั้นต่ำคือ 16-20 หน้า และบางครั้งยังต้องวาดหน้าเปิด 4 สีหรือหน้าปกรวมเล่มด้วย ซึ่งหากทำงานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวคงไม่ทันแน่ จึงจำเป็นต้องจ้างผู้ช่วยนักเขียนเพื่อช่วยแบ่งเบาหน้าที่

โดยหน้าที่ของผู้ช่วยจะมีตั้งแต่ ช่วยถมดำ แปะสกรีนโทน วาดฉากหลัง ไปจนถึงวาดตัวประกอบต่างๆ ภายในฉาก

โดยนักเขียนส่วนใหญ่จะจ้างผู้ช่วยแค่ 1-2 คนเพราะค่าแรงค่อนข้างสูงแต่ถ้าหากเป็นนักเขียนที่ผลงานได้รับความนิยมและมีกำลังทรัพย์สูงก็อาจจ้างผู้ช่วยจำนวนมาก 5 คนขึ้นไปเพื่อความสะดวกในการทำงาน

แต่ถึงยังไงการวาดตัวละครหลักหรือการตัดเส้นตัวละครก็ยังเป็นหน้าที่ที่นักเขียนควรทำด้วยตนเอง

รายได้

โดยค่าต้นฉบับของนักเขียนมือใหม่จะอยู่ที่หน้าละ 8,000-9,000 เยนหรือราว (2,400 บาทต่อหน้า)  สมมุติว่าในหนึ่งสัปดาห์เขียนได้ 20 หน้า ก็จะได้รายได้ 20×8,000=160,000 เยนต่อสัปดาห์ (ประมาณ 48,000 บาทต่อสัปดาห์)

โดยค่าต้นฉบับอาจเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ได้ลงพิมพ์ผลงาน ซึ่งถ้าหักค่าจ้างผู้ช่วย ค่าอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันไปแล้วรายรับที่ได้ก็อาจจะเหลือไม่มากเท่าไหร่โดยเฉพาะเงินเดือนของผู้ช่วย

ซึ่งนักเขียนมืออาชีพต้องเสียเงินจ้างผู้ช่วยอยู่ที่คนละ 350,000 – 450,000 (ประมาณ 106,000 บาทต่อเดือน ) ถ้าฝีมือดีก็ต้องจ่ายแพงกว่านั้น

รายได้หลักของนักเขียนการ์ตูนไม่ได้อยู่ที่ค่าต้นฉบับแต่อยู่ที่ เงินค่าลิขสิทธิ์ของฉบับรวมเล่ม เพราะเมื่อนักเขียนเขียนผลงานลงนิตยสารระยะนึง จะได้รับการพิมพ์เป็นผลงานรวมเล่ม

โดยหนังสือการ์ตูน 1 เล่ม นักเขียนจะได้เงินค่าลิขสิทธิ์ 10% ของราคาหนังสือ ถ้าหนังสือราคา 420 เยน(ประมาณ 126 บาท) ก็จะได้ 42 เยนต่อเล่ม(ประมาณ 12.6 บาทต่อเล่ม)

และถ้ายิ่งหนังสือขายดีจนได้รับการพิมพ์เพิ่มมากขึ้นรายได้ของนักเขียนก็จะมากตามไปด้วย 1 ล้านเล่ม ก็จะได้ 42 ล้านเยน หรือราว 12 ล้านบาท 

อาจารย์โมริตะ มาซาโนริ ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง Rokudenashi Blues (42 เล่ม) และ Rookies (24 เล่ม) ยอดขาย 1 เล่ม ได้ค่าลิขสิทธิ์ 40 เยน ยอดขายรวม 75 ล้านเล่ม รวมเป็น 3,000 ล้านเยน

หรือผลงานของ Eiichiro Oda ยอดขายอันดับหนึ่ง ผลงานเรื่อง one piece ยอดขาย 380 ล้านเล่ม รวมเป็นเงิน 15,200 ล้านเยน ประมาณ 4,560 ล้านบาท เห็นยอดขายแล้วไม่ใช่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะครับ

เห็นไหมครับว่าทุกอย่างล้วนเป็นประโยชน์ได้ทั้งนั้นถ้าเรามองให้ออกก็ให้กำลังใจคุณแม่ให้สามารถค้นหาสิ่งที่ลูกชอบแล้วทำมันให้เป็นรายได้ให้ได้นะครับ ^^