posttoday

“ละลายปมในใจ..ดีกว่าเก็บไว้เป็นระเบิดเวลา”

08 สิงหาคม 2562

คุยกับราช รามัญ

โดย ราช รามัญ

มนุษย์ทุกคนต่างมีพื้นฐานของชีวิตที่แตกต่างกันออกไป บางคนมาจากฐานะครอบครัวดี บางคนมาจากการศึกษาดี บางคนอาจจะมีชีวิตอยู่กันคนละมุมตรงข้ามกันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะมามีชีวิตที่มาจากทางไหนอย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมนี้ เมื่อมีที่มาที่แตกต่างกัน สิ่งที่เป็นปมในใจย่อมจะแตกต่างกัน

ต้องยอมรับว่าทุกคนต่างมีปมในใจอยู่ และคำว่าปมนี้ ล้วนเป็นคำที่สื่อไปในมุมลบมากกว่าบวก หลายคนเอาปมของตนเองมาใช้ชีวิต เอามาตั้งเป็นเงื่อนไขของชีวิตจนบางครั้งคนบางคนอาจจะเข้าถึงยาก เพราะมีปมนี้ขวางกันเป็นกรงขังเอาไว้พุทธะเองท่านสอนให้อยู่ที่ตรงนี้ กับ วันนี้ และเวลานี้ รวมความได้ว่า จงมาอยู่กับปัจจุบัน แต่เราท่านทั้งหลายขาดสติเผลอไปใช้ชีวิตด้วยเอาอดีตขึ้นมาเป็นเงื่อนไข มาเป็นโจทย์ตัวตั้ง เลยทำให้หลายคนเสียโอกาสที่ดีๆของชีวิตไป เราควรละลายปมในอดีตที่ฝังลึกอยู่ในใจ เพื่อก้าวต่อไปให้เติบโตตามความเหมาะสม ด้วยการละลายปมที่เป็นดุจน้ำแข็งใต้พื้นทะเลที่มีภูเขาครอบ

วิธีการละลายปมในอดีตที่ดีที่สุด เหมาะกับคนยุคนี้มากที่สุด คือ การกลับไปเรียนรู้เรื่องราวในอดีตอีกครั้ง แล้วจากนั้นปล่อยให้มันผ่านเลยไปอย่างชนิดที่ไม่ต้องไปสนใจไยดีอีกเลย ในสหรัฐอเมริกาเขานำเอาวิชาการฝึกจิตสมาธิ ตามแนวทางขององค์ทะไลลามะไปฝึกใช้กัน อีกทั้งเมื่อจิตมีสมาธิมากมายพอควรก็จัดการปมในอดีตนั้นให้หมดสิ้นไป

วิธีง่ายๆ ที่นิยมทำกัน คือ เมื่อจิตมีสมาธิในระดับหนึ่ง ให้ทบทวนเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ที่ทำให้เราเป็นปมอยู่ ขึ้นมาทบทวนอีกครั้ง จากนั้นหาจุดมองในเรื่องนั้นๆใหม่ให้ไปในเชิงบวก เมื่อสามารถคิดหรือทำได้แล้ว ภาวะแห่งปมในใจจะค่อยๆละลายออกไปเอง

หญิงสาวคนหนึ่ง..เธอเกลียดแม่ของเธอมาก ด้วยข้อหาลำเอียงรักแต่น้องแต่ไม่ค่อยรักเธอเลย ทั้งที่เธอเป็นพี่คนโต ชีวิตของเธอตั้งแต่จำความได้ จะถูกแม่ใช้ให้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อน้องอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ยามว่างที่เธอจะเล่นอะไรกับเพื่อนหรือส่วนตัวแม่ก็ยังคงบอกว่าให้เล่นกับน้อง ให้ดูน้อง

กระทั่งวันหนึ่งเธอเกิดความรู้สึกว่าทนไม่ไหว กับความรู้สึกแบบนี้และชีวิตแบบนี้ เพราะเหมือนคนอกตัญญูชอบกลๆ ที่ไม่ค่อยชอบแม่ของตัวเอง ผมแนะนำให้ใช้วิธีเดียวกับขององค์ทะไลลามะ ให้เธอนึกถึงตุการณ์ต่างๆแล้วลองมองในมุมบวกให้ได้
ว่าทำไม..แม่ชอบใช้เธอให้ดูแลน้อง ให้ทำอะไรเพื่อน้อง และเล่นกับน้องในคราวแรกเธอคิดไม่ออกจนกระทั่งเธอได้เริ่มนั่งนิ่งๆ ทำจิตให้สงบ ผ่านไปราวชั่วโมงเศษ เธอบอกว่าเข้าใจแล้ว

แม้ให้เธอดูน้อง แม่ให้เธอเล่นกับน้องและแม่ชอบใช้เธอมากกว่าน้อง เป็นเพราะแม่ต้องการสอนให้เธอนั้นมีภาวะความเป็นผู้นำที่สูง แม่ต้องการให้เรารู้จักคำว่ารักน้อง แม่ต้องการสอนให้เราขยันและมีความอดทนอดกลั้นกับบางสิ่งบางอย่าง ทางด้ายจิตใจ

เมื่อคิดได้แบบนี้ ปมที่อยู่ในใจของเธอก็ค่อยๆ ละลายหายไป เพราะเธอเข้าใจความตั้งใจความปรารถนาดี หรือ วัตถุประสงค์ของแม่เธอในมุมมองใหม่ที่เป็นบวกยิ่งขึ้น
เพียงเท่านี้เธอสามารถปลดล็อคสิ่งที่เป็นความค้างคาอยู่ในจิตใจและความคิดของเธอที่ผ่านมากว่า 30 ปีออกได้จนหมดสิ้น เรามีปมอะไรอยู่ในใจลองทบทว

ดู..บางคนอาจจะตอบว่า ไม่รู้ว่ามีปมอะไร หาคำตอบได้ด้วยตัวเองไม่ยาก
เมื่อมีอะไรเข้ามากระทบแล้วเราเริ่มเกิดความรู้สึกไม่ค่อยดี ไม่ค่อยชอบและไม่อยากที่จะเข้าไปร่วมพิธีรีกรรมด้วย นั่นแหละ ปมในอดีตเริ่มทำงาน เราก็หยิบเอาสิ่งนั้นขึ้นมาพิจารณาแล้วมองหามุมด้วยความคิดที่ดีๆให้เกิดขึ้นให้ได้ในเรื่องนั้นๆที่เป็นปม เชื่อเถอะว่า ปมนั้นจะลายไปเองโดยอัตโนมัติ

ถ้าคุณพร้อมใจเปิดใจอย่างจริงจังที่จะเรียนรู้มันใหม่อีกครั้งแล้ว จากนั้นก็ทิ้งมันลงไปแล้วกลับมาอยู่ที่วันนี้ ตรงนี้ ตามที่พระพุทธองค์สอน แค่นี้ปมในอดีตที่หนักหนาร้ายแรงก็จบสิ้นลง