posttoday

เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม เชิญชมภาพจิตรกรรมในโบสถ์ที่แฝงปริศนา

03 กันยายน 2560

กรมศิลปากรจัดโครงการเผยแพร่มรดก

โดย aส.สต

กรมศิลปากรจัดโครงการเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และสระแก้ว วันที่ 15-16 ส.ค. 2560 โดยนำคณะสื่อมวลชน เข้าชมวัดใหญ่อินทาราม จ.ชลบุรี เป็นลำดับแรก ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระราชสิทธิวิมล เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ปัจจุบันอายุ83 ปี) มาบรรยาย และนำชม ท่านเล่าว่าวัดนี้เป็นวัดโบราณวัดหนึ่ง สร้าง พ.ศ. 1955 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประวัติที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ คือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อเป็นที่พระยาวชิรปราการ ทรงเลือกวัดนี้เป็นจุดพักไพร่พล ก่อนมุ่งหน้าเมืองจันทบูร หลังออกจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2 ปัจจุบันมีศาลของพระองค์ประดิษฐานเป็นที่สักการบูชาของชาวเมือง

เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม เชิญชมภาพจิตรกรรมในโบสถ์ที่แฝงปริศนา หลวงปู่เชิญชมภาพจิตรกรรมวัดใหญ่อินทาราม

สิ่งสำคัญของวัด ได้แก่ พระอุโบสถ สร้างในสมัยอยุธยา มีฐานสิงห์รองรับตัวอุโบสถที่สร้างแบบอยุธยานิยมคือ ฐานแอ่นโค้งแบบท้องสำเภา

หลวงปู่เล่าว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อพระราชทานเพลิงศพบุคคลผู้หนึ่งที่วัดนี้ ได้เสด็จฯ มาทอดพระเนตรจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถเป็นเวลานานพอสมควร ทั้งๆ ที่มิได้มีหมายกำหนดการมาก่อน แต่พระอุโบสถสะอาดพร้อมรับเสด็จ เพราะเปิดสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็นเป็นประจำทุกวัน

พระอุโบสถ มีขนาดใหญ่ยาว 21 เมตร กว้าง 10 เมตร มี 7 ห้อง ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน 21 องค์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศ แต่ละองค์ประดิษฐานบนฐานชุกชีที่มีลวดลายไม่ซ้ำกัน มีเสาร่วมในเป็นเสาไม้ ในจำนวนนั้นต้นหนึ่งที่ใกล้ชุกชีพระพุทธรูปประธาน ถูกไฟไหม้ที่โคนเสาเหตุเกิดตอนกลางคืน เมื่อเดือน ก.ย. 2559 เมื่อพระภิกษุมาเปิดพระอุโบสถตอนเช้าจึงเห็นควันเต็มพระอุโบสถ เดชะบุญไม่เสียหายอะไรมากนัก สาเหตุน่าจะมาจุดเทียนแล้วลืมดับ ทางวัดจึงสั่งห้ามจุดเทียนในพระอุโบสถ และกรมศิลปากรจะมาบูรณะให้ในระยะต่อไป

หลวงปู่ได้ชี้ชวนให้ชมการประดับมุกที่บานประตูพระอุโบสถทั้งสองด้าน ว่าเป็นฝีมือช่างจากพระนครศรีอยุธยา กว่าจะเสร็จงานทันฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งท่านไม่บอกว่านานแค่ไหน นอกจากบอกว่า เมื่อเริ่มงานราคาเปลือกหอยมุกอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท เมื่อใกล้เสร็จงานขึ้นมากิโลกรัมละ 2,500 บาท

เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม เชิญชมภาพจิตรกรรมในโบสถ์ที่แฝงปริศนา บ่วงคล้องคอ

พระคุณเจ้าในวัย 83 ปี แต่กระฉับกระเฉงชี้ให้ดูภาพปริศนาที่บานประตูด้านในพระอุโบสถ เป็นภาพเขียนขึ้นใหม่ โดยท่านชี้ให้ดูภาพผู้ชายถือผ้าไตร เตรียมบวช 1 ภาพ อีกภาพหนึ่งตรงกันข้ามเป็นภาพเขียนหญิงสาวที่มีห่วง 3 ห่วง เป็นเครื่องประดับ หลวงปู่บอกว่า ผู้ชายออกบวชไม่ได้เพราะติด 3 บ่วงนี้แล

บ่วงที่ 1 คือบุตร (ปุตเต คีวัง) คล้องที่คอ บ่วงที่ 2 คือทรัพย์ (ธนัง ปาเท) คล้องที่เท้า และบ่วงที่ 3 คือภรรยา (ภริยา หัตเถ) คล้องที่มือ หากตัด 3 บ่วงได้ก็มีทางเดินเข้าสู่ความสงบคือพระนิพพาน

ก่อนจะจบบรรยาย ท่านให้ทำนายเรื่องกระดาษว่าหมายถึงอะไรคือ

กระดาษแผ่นนี้ ไม่หนา แต่ทำให้คนไม่มีความสุข กระดาษแผ่นนี้ ไม่ใหญ่ แต่ทำให้คนกลัว และกระดาษแผ่นนี้ไม่หนัก แต่ทำให้คนปวดหัว โกรธเคืองถึงกับไม่เผาผีกันเลย

พวกเราฟังทายไม่ได้ ในที่สุดหลวงปู่เฉลยว่ากระดาษนั้นคือ เงิน เงิน เงิน ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเพลงอำนาจเงินว่า โธ่เงินเอ๋ยเงิน โอ้เงินเอ๋ยเงิน อำนาจมันเกิน จะเอื้อมอาจ คนเราเคารพ คบกันที่เงิน ไม่มีเขาเมิน ดังหมดญาติ เงินตรานี่หรือ คือกระดาษผู้สร้างขึ้นมา ซิอนาถ หลงใหลเป็นทาส อำนาจเงิน

เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทาราม เชิญชมภาพจิตรกรรมในโบสถ์ที่แฝงปริศนา ประตูมุกที่ใช้เวลามากกว่าจะรังสรรค์เสร็จ

รอบกำแพงพระอุโบสถด้านใน เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทั้ง 4 ด้าน

ด้านหน้า ปรากฏภาพมารผจญขนาดใหญ่เต็มผนังเกือบถึงระดับพื้นพระอุโบสถตอนบนสุดเป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย บนบัลลังก์ภายใต้ซุ้มเรือนแก้ว และซุ้มโพธิ์มีฉัพพรรณรังสี ถัดลงมาเป็นภาพแม่พระธรณียืนบิดมวยผม ตามที่เห็นทั่วไปในพระอุโบสถอื่นๆ เช่น ภายในกองทัพพญามารมีทหารชาติต่างๆ เช่น ชาวจีน ฝรั่งเศส ชวา จาม เป็นต้น แต่ละตนถืออาวุธแตกต่างกันออกไป เช่น กระบี่ กริช มีดพร้า เป็นต้น ด้านขวาเป็นภาพอุทกธาราไหลท่วมกองทัพเหล่ามาร พญาวสวัตดีมารยอมแพ้ถวายอัญชลีแด่พระพุทธองค์

แต่มีภาพปริศนาหลายภาพแฝงอยู่ เป็นภาพอะไรนั้น หลวงปู่ให้ไปดูเอง เพราะพระอุโบสถเปิดทุกวัน