posttoday

อภิธรรมโชติกะวิทยาลัยสอนอภิธรรมระดับปริญญาตรี เรียนฟรีจนจบ

28 สิงหาคม 2554

วันนี้ตอบคำถามของคุณเทียน วิไลรัตน์ จาก จ.ลำปาง ที่ถามเรื่อง วุฒิบัตรผู้เรียนจบอภิธรรม

วันนี้ตอบคำถามของคุณเทียน วิไลรัตน์ จาก จ.ลำปาง ที่ถามเรื่อง วุฒิบัตรผู้เรียนจบอภิธรรม

โดย...สมาน สุดโต

วันนี้ตอบคำถามของคุณเทียน วิไลรัตน์ จาก จ.ลำปาง ที่ถามเรื่อง วุฒิบัตรผู้เรียนจบอภิธรรม โดยคุณเทียนถามว่า ที่ว่าหลวงพ่อได้เล่าเรียนพระอภิธรรมที่วัดระฆังจบอภิธรรมเอก อันนี้ยิ่งงงใหญ่ เพราะเคยได้ยินแต่คำว่านักธรรมตรีโทเอก ไม่เคยได้ยินว่าอภิธรรมเอก มันอันเดียวกันหรือเปล่า

ก่อนอื่นขอตอบเบื้องต้นว่า คำว่า อภิธรรมเอก ที่คุณเทียนสงสัย น่าจะตรงกับวุฒิผู้เรียนจบอภิธรรมชั้นสูงสุดที่เรียกว่า มหาอาภิธรรมมิกะเอก เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนพระอภิธรรมของอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)

เพื่อให้ได้รายละเอียดมากขึ้น ผมได้ไปหาผู้รู้ที่อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ พบแม่ชีวิไล อมรวาที เจ้าหน้าที่อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย ซึ่งท่านให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก

นอกจากเล่าให้ฟัง แม่ชีได้ให้หนังสือที่ระลึกงานมอบประกาศนียบัตรอภิธรรมบัณฑิต รุ่นที่ 47/2553 มาเล่มหนึ่ง มีรายละเอียดหลักสูตรและประวัติการศึกษาเล่าเรียนอภิธรรมในประเทศไทยตั้งแต่ต้น นอกจากตอบคำถามคุณเทียนแล้ว ยังได้ประวัติความเป็นมาของการเรียนอภิธรรมในเมืองไทยเพิ่มเติมอีกต่างหาก

อภิธรรมโชติกะวิทยาลัยสอนอภิธรรมระดับปริญญาตรี เรียนฟรีจนจบ

 

ที่แม่ชีเล่าให้ฟังก็คือ วิทยาลัยแห่งนี้สังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีครูทั้งพระและฆราวาส 36 คน แบ่งชั้นเรียนตามหลักสูตรคือ ตรีโทเอก รวมเวลาเรียน 7 ปี จบแล้วได้ประกาศนียบัตรอภิธรรมบัณฑิต (ป.อบ.) เทียบเท่าปริญญาตรี

สิ่งพิเศษสำหรับการเรียนอภิธรรมคือ เรียนฟรี เว้นแต่ชำระค่าลงทะเบียน 50 บาท และค่าตำราตามราคา ไม่จำกัดอายุ และความรู้เบื้องต้น โดยทางวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนทุกวัน มีทั้งภาคบ่ายและภาคค่ำ และเปิดสอนรอบพิเศษ (วันเสาร์อาทิตย์) หยุดวันพระ วันนักขัตฤกษ์ และวันหยุดตามประกาศมหาวิทยาลัย

หลักฐานในการสมัครเข้าศึกษา

1.รูปถ่ายสีขาวดำ ขนาด 1 นิ้ว 2 ใบ

(ไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายไม่เกิน 2 ปี)

2.สำเนาประกาศนียบัตร (เฉพาะผู้ที่เคยสอบผ่านในชั้นต้นมาแล้ว)

เปิดสอนรอบปกติ (วันจันทร์วันศุกร์)

ภาคบ่าย เวลา 13.00-16.00 น.

ภาคค่ำ เวลา 17.00-19.00 น.

เปิดสอนรอบพิเศษ (วันเสาร์วันอาทิตย์)

ภาคบ่าย เวลา 13.00-16.00 น.

ภาคค่ำ เวลา 17.00-20.00 น.

สำหรับหลักสูตรการศึกษาอภิธรรมนั้นแบ่งดังนี้

ชั้นที่ 1 จูฬอาภิธรรมิกะตรี (ใช้เวลาศึกษา 6 เดือน)

ปริจเฉทที่ 1 จิตตสังคหะ

ศึกษาความหมาย ธรรมชาติ การจำแนกจิตโดยย่อและโดยพิสดาร

ปริจเฉทที่ 2 เจตสิกสังคหะ

ศึกษาความหมาย ธรรมชาติ ลักษณะและความสัมพันธ์ระหว่างจิตและเจตสิก

ปริจเฉทที่ 6 รูปสังคหะ นิพพาน

ศึกษาความหมาย โครงสร้างประกอบ เนื้อหาของรูปและนิพพาน

ชั้นที่ 2 จูฬอาภิธรรมิกะโท (ใช้เวลาศึกษา 6 เดือน)

ปริจเฉทที่ 3 ปกิณณกสังคหะ

ศึกษาความหมายและความสัมพันธ์ระหว่างจิตและเจตสิก โดยประเภทแห่งเวทนา เหตุ กิจ ทวาร อารมณ์ และวัตถุ

ปริจเฉทที่ 7 สมุจจยสังคหะ

ศึกษาความหมาย ความสำคัญ โครงสร้างและเนื้อหาตามหลักสมุจจยสังคหะหมวดอกุศล มิสสกะ โพธิปักขิยะ และสัพพสังคหะ

ชั้นที่ 3 จูฬอาภิธรรมิกะเอก (ใช้เวลาศึกษา 6 เดือน)

ธัมมสังคณีสรูปัตถนิสสยะ (มาติกาโชติกะ)

ศึกษาความหมาย โครงสร้างและเนื้อหาสาระของคัมภีร์ธัมมสังคณีประเภทของมาติกา ติกมาติกา ทุกมาติกา อธิธัมมทุกมาติกา สุตตันติกทุกมาติกา

เมื่อเรียนจบสอบชั้นที่ 3 หรือจูฬอาภิธรรมิกะเอก จึงได้ประกาศนียบัตร 1 ใบ

ชั้นที่ 4 มัชฌิมอาภิธรรมมิกะตรี (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

ปริจเฉทที่ 4 วิถีสังคหะ

ศึกษาความหมายของวิถีจิต โครงสร้าง และกฎเกณฑ์ของวิถีจิต ปัญจทวารวิถี มโนทวารวิถี กามชวนมโนทวารวิถี อัปปนาชวนมโนทวารวิถี การจำแนกวิถีจิตโดยภูมิและบุคคล

ปริจเฉทที่ 5 วิมุตตสังคหะ

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง และเนื้อหาของวิมุตตสังคหะ ภูมิจตุกกะ ปฏิสนธิจตุกกะ กัมมจตุกกะ มรณุปปัตติจตุกะ

ชั้นที่ 5 มัชฌิมอาภิธรรมมิกะโท (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

ปริจเฉทที่ 8 ปัจจัยสังคหะ

ศึกษาความหมายของปัจจยสังคหะตามปฏิจจสมุปบาทนัยความเป็นไปของเหตุและผลที่เกี่ยวเนื่องกันตามปัฏฐานนัย

ปริจเฉทที่ 9 กัมมัฏฐานสังคหะ

ศึกษาความหมาย ประเภท ความสำคัญ และประโยชน์ของสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยอาศัยอรรถกถา และฎีกาประกอบ

ชั้นที่ 6 มัชฌิมอาภิธรรมมิกะเอก (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

ธาตุกถาสรูปัตถนิสสยะ (ปัญหาพยากรณโชติกะ)

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง เนื้อหาและประเภทของธาตุกถาในนยมาติกา อัพภันตรมาติกา นยมุขมาติกา ลักขณมาติกา พาหิรมาติกา

จบชั้นที่ 6 หรือมัชฌิมอาภิธรรมมิกะเอก จะได้ประกาศนียบัตร 1 ใบ

ชั้นที่ 7 มหาอาภิธรรมมิกะตรี (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

ยมกสรูปัตถนิสสยะ (มูลยมก)

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง เนื้อหาสาระ และประเภทของมูลยมกการจำแนกมูลยมก ทั้ง 4 ประเภท โดยนัย 4 การจำแนกมูลยมก 4 และนัย 4 โดยยมก 3 ยมกสรูปัตถนิสสยะ (ขันธยมก)

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง เนื้อหาสาระ และประเภทของขันธยมก ปัณณัตติวาระ ปวัตติวาระ และปริญญาวาระ

ชั้นที่ 8 มหาอาภิธรรมมิกะโท (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

ยมกสรูปัตถนิสสยะ (อายตนยมก ธาตุยมก สัจจยมก)

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง เนื้อหาสาระของอายตนยมก ธาตุยมก สัจจยมก ประเภทของ อายตนยมก ธาตุยมก สัจจยมก ปัณณัตติวาระ ปวัตติวาระ ปริญญาวาระ

ชั้นที่ 9 มหาอาภิธรรมมิกะเอก (ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน)

มหาปัฏฐาน (ปัจจัยโชติกะ)

ศึกษาความหมาย โครงสร้าง เนื้อหาสาระของปัฏฐาน และประเภทของปัฏฐาน สรุปเนื้อความ 3 ประการ การจำแนกปัจจัย 24 โดยความเป็นกุศล อกุศล และอัพยากตะ

รวมใช้เวลาในการศึกษาจนจบหลักสูตรทั้ง 9 ชั้น 7 ปี 6 เดือน

จบชั้นนี้มีคุณสมบัติเท่ากับปริญญาตรี

ประวัติการศึกษาอภิธรรมในไทย

หนังสือที่ระลึกงานมอบประกาศนีบัตรอภิธรรมบัณฑิตเล่าประวัติความเป็นมาของการศึกษาพระอภิธรรมในเมืองไทยดังนี้

เมื่อพุทธศักราช 2494 พระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระพิมลธรรมสังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เดินทางไปดูกิจการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศพม่า ได้เห็นการศึกษาพระอภิธรรมในประเทศพม่าอย่างแพร่หลาย ซึ่งในสมัยนั้นการศึกษาพระอภิธรรมในประเทศไทยยังไม่มี จึงได้ติดต่อรัฐบาลประเทศพม่าขออาราธนาพระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ พระเถระผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านพระอภิธรรมปิฎกจากประเทศพม่ามาดำเนินการเปิดการศึกษาพระอภิธรรมปิฎกครั้งแรกที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งพุทธศักราช 2509 พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ ถึงแก่มรณภาพ ศิษยานุศิษย์ได้ดำเนินการต่อเรื่อยมา

อภิธรรมโชติกะวิทยาลัยสอนอภิธรรมระดับปริญญาตรี เรียนฟรีจนจบ

อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย

พุทธศักราช 2511 ได้ก่อตั้งอภิธรรมโชติกะวิทยาลัยขึ้นที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร อยู่ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานอำนวยการจัดการศึกษา โดยได้รับความอุปถัมภ์จากมูลนิธิสัทธัมมโชติกะ และผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป จนกระทั่งพุทธศักราช 2524 ด้วยเมตตาธรรมและมองการณ์ไกลของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่หวังความเจริญก้าวหน้าของอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ประกาศให้อภิธรรมโชติกะวิทยาลัยเป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้ชื่อว่า “อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” ขึ้นตรงต่อสำนักอธิการบดี

ปัจจุบัน อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในสังกัดสำนักงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคมตามมาตรา 9 วรรคสอง และมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ข้อ 11 (3) เรื่องการแบ่งส่วนงาน พุทธศักราช 2541 ได้ดำเนินการจัดการศึกษามาเป็นเวลา 36 ปีแล้ว มีสาขาทั่วประเทศ 57 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีบทบาทเผยแผ่ธรรมะในรูปแบบของการจัดการศึกษาพระอภิธรรมปิฎก อรรถกถา และฎีกาพระอภิธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและสังคมไทยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสันติสุข และเกื้อกูลต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกๆ ด้าน

วัตถุประสงค์

1.เพื่อให้พุทธบริษัทมีความรู้ความเข้าใจในพระอภิธรรมปิฎก

2.เพื่อเป็นการรักษาพระปริยัติศาสนาส่วนของพระอภิธรรมปิฎกให้คงอยู่สืบต่อไป

3.เพื่อให้ผู้ศึกษามีความเข้าใจในปรมัตถธรรมอันเป็นสภาวะที่เกื้อกูลแก่การปฏิบัติสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน

4.เพื่อให้ผู้ศึกษามีความรู้ความสามารถศึกษาเชื่อมโยงกับพระสุตตันตปิฎกและพระวินัยปิฎก ที่มีความสัมพันธ์กัน ไม่ขัดแย้งกันเกื้อกูลกัน

5.เพื่อประโยชน์แก่ผู้ศึกษาที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

6.เพื่อเสริมสร้างศรัทธาและปัญญาของผู้ศึกษาให้มั่นคงในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนายิ่งๆ ขึ้นไป

รายการวิทยุ

นอกจากการเรียนการสอนตามปกติ ทางวิทยาลัยยังจัดรายการทางวิทยุ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า

รายการวิทยุของอภิธรรมโชติกะวิทยาลัยทางสถานีวิทยุ พล.ม. 2 AM 963 KHz

รายการ “แก่นธรรมจากพระอภิธรรมปิฎก”

วันพุธ เวลา 23.30-24.00 น.

รายการ “พระอภิธรรมเพื่อคุณภาพชีวิต”

วันเสาร์ เวลา 20.30-21.00 น.

สุดท้ายในหนังสือนี้ให้ข้อมูลว่า จะติดต่อขอทราบรายละเอียดหรือร่วมอุปถัมภ์รายการได้ที่

อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ พระนคร กรุงเทพฯ 10200

โทร./โทรสาร 02224 3843, 026236101

http://www.aphidham.mcu.ac.th

หรือคลิกที่ http://www.mcu.ac.th หน่วยงาน อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย