ปรับครม.ชิงเก้าอี้มหาดไทย เกมวัดใจเสถียรภาพรัฐบาล"แพทองธาร"
เช็คเสียงรัฐบาล หลังเพื่อไทยเปิดเกมวัดใจอนุทิน ศึกชิงเก้าอี้มหาดไทยจากภูมิใจไทย เสี่ยงกระทบเสถียรภาพนายกฯแพทองธาร
การส่งสัญญาณชัดเจนจากภูมิใจไทยว่า “พร้อมเป็นฝ่ายค้าน” ของอนุทิน ชาญวีรกุล หากถูกปลดจากเก้าอี้รมว.มหาดไทย ผ่านการให้สัมภาษณ์ “เนชั่น วิเคราะห์ข่าว” โดยอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคระบุว่ามีหารือในพรรคแล้ว หากเกิดความไม่เป็นธรรม ในการปรับครม. ภูมิใจไทย อาจพิจารณาถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและได้รับเสียงปรบมือสนับสนุนจากสมาชิกพรรคทั้งที่ประชุม
พร้อมกับการทิ้งไพ่วลีเด็ด “หากอยู่ร่วมกันต้องมีศรัทธา ไม่ใช่แย่งชิงกัน เพราะมันอยู่ด้วยกันไม่ได้"
กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ท่ามกลางแรงกดดัน และแรงสั่นสะเทือนจากคดีฮั้วเลือกสว.ที่พาดพิงถึงแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทยด้วย กรณีกกต.ออกหมายเรียกให้ไปแจงคดี อนุทินย้ำว่าเป็นเกมทางการเมืองเพื่อมุ่งยุบภูมิใจไทย พร้อมระบุว่า พรรคไม่เคยกระทำผิดกฎหมายและได้มีคำสั่งห้าม สส. และรัฐมนตรีของพรรคยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. อย่างชัดเจน
การปรับ ครม. ของพรรคเพื่อไทยที่ถูกจับตาในห้วงเวลานี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการสลับตัวบุคคล แต่เป็น “สนามอำนาจ” ระหว่างสองขั้วใหญ่ในรัฐบาล ทั้งภูมิใจไทย-เพื่อไทย
เก้าอี้ รมว.มหาดไทย ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในเชิงบริหารและการควบคุมอำนาจในพื้นที่
แม้เพื่อไทยจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลและมีจำนวน ส.ส. มากที่สุด (142 เสียง) แต่การที่กระทรวงมหาดไทยยังอยู่ในมือพรรคพันธมิตรอย่างภูมิใจไทย (69 เสียง) ก็ทำให้เกิดแรงต้านภายในเพื่อไทยที่ต้องการ “ยึดคืน” พื้นที่อิทธิพลนี้ เพื่อฟื้นความเป็นแกนนำทั้งในสภาและในระบบราชการภูมิภาค
ปัจจัยเสี่ยงและแรงกระเพื่อม
กระทรวงมหาดไทย: ศูนย์กลางอำนาจท้องถิ่น
อำนาจในการดูแลผู้ว่าฯ นายอำเภอ การจัดสรรงบประมาณและการบริหารราชการแผ่นดินในระดับจังหวัด ทำให้ตำแหน่งนี้กลายเป็นหัวใจในการสร้าง “ฐานการเมือง” และเครือข่ายอุปถัมภ์ ที่เพื่อไทยต้องการเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง
คดีฮั้วเลือก สว.: ชนวนเปิดเกมล้างไพ่
การที่ “อนุทิน” และ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่ภูมิใจไทย ถูกโยงชื่อในคดีฮั้วเลือกสว. ทำให้เกิดกระแสกดดันทางการเมืองให้เพื่อไทย “ตัดส่วนที่เป็นปัญหา” เพื่อรักษาภาพลักษณ์รัฐบาล
เสถียรภาพรัฐบาล เสียงในสภาภาวะปริ่มน้ำ
หากภูมิใจไทยถอนตัว เสียงรัฐบาลจะเหลือเพียง 256 เสียง (จาก 325) แม้ยังเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร (250 จาก 500 เสียง) แต่ก็เปราะบางต่อการลงมติสำคัญ และเสี่ยงต่อการถูก “ตีโต้” จากฝ่ายค้าน
ผู้เล่นหลักกับผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้
พรรคเพื่อไทย: เดินเกมยึดคืนอำนาจจากพรรคร่วม เสี่ยงเสียพันธมิตรแต่หวังฟื้นความเป็นแกนนำ
พรรคภูมิใจไทย: ยืนหยัดรักษาเก้าอี้มหาดไทย ด้วยเดิมพันสูงคือการถอนตัวจากรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร: ต้องตัดสินใจระหว่างการรักษาเสถียรภาพรัฐบาลกับการจัดสมดุลในพรรค
แนวโน้มและจุดเปลี่ยนที่ต้องจับตา
หากมีการประนีประนอม: อาจเห็นการ “สลับเก้าอี้” หรือมอบกระทรวงสำคัญอื่นเป็นการแลกเปลี่ยน
หากเกิดการแตกหัก: โอกาสที่ภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้านมีสูง และอาจเปิดช่องให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือผลักดันไปสู่การยุบสภา
ปรับครม. เกมต่อรอง หรือจุดแตกหัก
“เก้าอี้มหาดไทย” ไม่ใช่เพียงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจในสนามการเมืองไทย เมื่อพันธมิตรเริ่มจับตามองผลประโยชน์เป็นหลักมากกว่าความร่วมมือ รัฐบาลแพทองธารอาจต้องเผชิญบททดสอบความเป็นผู้นำเร็วกว่าที่คาดคิด
ไม่ว่าจะจบที่ “ประนีประนอม” หรือ “แตกหัก” บทนี้จะเป็นจุดชี้วัดว่า “รัฐบาลผสมเพื่อประนีประนอมผลประโยชน์” จะไปได้ไกลแค่ไหนในเกมการเมืองไทยที่ไม่เคยไร้แรงปะทะ.
อมรเดช ชูสุวรรณ
บก.ข่าวและคอลัมนิสต์เชี่ยวชาญวิเคราะห์ข่าวประเด็นสังคมร้อนแรง
ด้วยสไตล์เขียนคมชัด ตรงประเด็น และมีมุมมองเฉพาะตัว


