posttoday

สิทธิพิเศษปี 2568! ลดภาษีธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หนุนลงทุนเต็มสปีด

08 ตุลาคม 2568

รัฐบาลจัดหนัก! ลดภาษีครั้งใหญ่ใน 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษ หวังดึงเม็ดเงินและสร้างความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ปี 2568 กำลังจะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่รัฐบาลเดินเครื่องมาตรการลดหย่อนภาษีอย่างจริงจัง เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเสริมความได้เปรียบในสมรภูมิการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาเผชิญแรงสั่นสะเทือนจากเงินเฟ้อ ราคาพลังงานที่ผันผวน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในหลายภูมิภาค ทำให้หลายประเทศต้องเร่งออกมาตรการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน ซึ่งไทยเองก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือ

มาตรการภาษีใหม่สำหรับปีนี้ ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และผู้ประกอบการเดิม ด้วยเป้าหมายชัดเจนคือ ลดต้นทุน เสริมสภาพคล่อง และเปิดทางให้ธุรกิจขยายกำลังผลิตหรือบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เหตุผลเบื้องหลังการลดภาษีในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone: SEZ) คือพื้นที่ที่รัฐมอบสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจและผ่อนปรนกฎระเบียบมากกว่าพื้นที่ทั่วไป เป้าหมายคือดึงการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ สร้างงานให้ท้องถิ่น และกระจายความเจริญออกสู่ภูมิภาค

ที่ผ่านมาเขตเศรษฐกิจพิเศษในไทย เช่น พื้นที่ตามแนวชายแดน เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และนิคมอุตสาหกรรมเฉพาะทาง ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การลดภาษีจึงกลายเป็น “อาวุธลับ” ที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้น เพราะเห็นผลประโยชน์ชัดเจน ทั้งในด้านค่าใช้จ่ายที่ลดลงและกำไรที่เพิ่มขึ้น

Highlight มาตรการลดภาษีปี 2568 มีอะไรบ้าง

1. ลดอัตราภาษีนิติบุคคล

  • ผู้ประกอบการที่ตั้งและดำเนินกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้สิทธิลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% เหลือเพียง 10–15% ในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ธุรกิจที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป อาจได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3–5 ปีแรก

2. ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ

  • เพื่อลดต้นทุนการผลิต รัฐบาลยกเว้นการเก็บอากรขาเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตหรือบริการ

3. มาตรการด้านภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

  • ปรับลดหรือยกเว้น VAT สำหรับการซื้อขายสินค้าบางประเภทภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของสินค้าและบริการ

4. สิทธิหักค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน

  • ผู้ประกอบการสามารถหักค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) หรือการฝึกอบรมแรงงานเป็นสองเท่าของค่าใช้จ่ายจริง สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและยกระดับทักษะแรงงาน

รายชื่อ 10 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีที่ไหนบ้าง                                                         

  1. ตาก – อำเภอแม่สอด แม่ระมาด พบพระ และอุ้มผาง (ติดชายแดนเมียนมา)
  2. มุกดาหาร – อำเภอเมืองมุกดาหาร ดอนตาล และคำชะอี (ติดลาว)
  3. สระแก้ว – อำเภออรัญประเทศ วัฒนานคร และคลองหาด (ติดกัมพูชา)
  4. ตราด – อำเภอคลองใหญ่ (ติดกัมพูชา)
  5. สงขลา – อำเภอสะเดา (ติดมาเลเซีย)
  6. นราธิวาส – อำเภอสุไหงโก-ลก ตากใบ แว้ง และสุคิริน (ติดมาเลเซีย)
  7. เชียงราย – อำเภอเชียงของ เชียงแสน และแม่สาย (ติดลาว–เมียนมา)
  8. นครพนม – อำเภอเมืองนครพนม และท่าอุเทน (ติดลาว)
  9. กาญจนบุรี – อำเภอเมืองกาญจนบุรี ทองผาภูมิ และสังขละบุรี (ติดเมียนมา)
  10. หนองคาย – อำเภอเมืองหนองคาย ท่าบ่อ และศรีเชียงใหม่ (ติดลาว)

ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

  1. การลงทุนขยายตัวอย่างรวดเร็ว ต้นทุนลดลง ทำให้การลงทุนมีความคุ้มค่ามากขึ้น นักลงทุนตัดสินใจได้ไว โดยเฉพาะธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง
  2. สร้างงาน เพิ่มรายได้ท้องถิ่น การเกิดขึ้นของโรงงานและธุรกิจใหม่ส่งผลตรงต่อการจ้างงาน พร้อมหนุนธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ขนส่ง ร้านอาหาร ที่พัก
  3. เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ต้นทุนที่ถูกลงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการตั้งราคาที่ดึงดูดตลาดทั้งในและต่างประเทศ
  4. ดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติ (FDI) นักลงทุนต่างชาติมองหาพื้นที่ที่มีความคุ้มค่าและเสถียรภาพ เขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีสิทธิพิเศษด้านภาษีจึงเป็นตัวเลือกน่าสนใจ

สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องประเมิน

แม้สิทธิทางภาษีจะเป็นจุดขายสำคัญ แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น

  • โครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า น้ำ ระบบสื่อสาร พร้อมรองรับหรือไม่
  • แรงงาน มีเพียงพอและมีทักษะตรงกับความต้องการของธุรกิจหรือไม่
  • เงื่อนไขสิทธิประโยชน์ ระยะเ วลาลดภาษีและข้อกำหนดด้านการลงทุนขั้นต่ำ
  • แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปัจจัยภายนอกอาจกระทบความต้องการสินค้าและบริการ

ความท้าทายที่ต้องจับตา

แม้จะมีแรงหนุนจากภาษี แต่ความเสี่ยงยังคงอยู่ ทั้งความผันผวนของค่าเงิน ราคาพลังงานที่มีโอกาสปรับขึ้น หรือการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านที่ออกมาตรการลักษณะเดียวกัน รัฐและเอกชนจึงต้องจับมือกัน สร้างจุดแข็งและลดข้อจำกัด เพื่อรักษาความได้เปรียบในระยะยาว

กล่าวโดยสรุป มาตรการลดภาษีในเขตเศรษฐกิจพิเศษปี 2568 เป็นเครื่องมือสำคัญในการเร่งเครื่องเศรษฐกิจไทยช่วงการแข่งขันโลกเข้มข้น การมอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษีช่วยกระตุ้นการลงทุน สร้างงาน และเสริมฐานเศรษฐกิจท้องถิ่นให้แข็งแกร่งขึ้น

แต่ความสำเร็จจะไม่หยุดอยู่ที่การให้สิทธิภาษีเพียงอย่างเดียว หากทุกองค์ประกอบเดินหน้าไปพร้อมกันโครงสร้างพื้นฐานพร้อม กฎหมายโปร่งใส แรงงานคุณภาพ เขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยย่อมมีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่โดดเด่นในภูมิภาค และดึงดูดนักลงทุนให้ “เร่งเครื่อง” ตามเป้าหมายของปี 2568 ได้อย่างแท้จริง

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting   

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68