6 หุ้นเทพเซียน ผู้นำยักษ์ใหญ่จีนฮ่องกง “Terrific China”
ที่ผ่านมา “หุ้นจีน” อาจไม่ได้อยู่ในลิสต์นักลงทุนทั่วโลก แต่ปี 2025 เริ่มโฟกัสหุ้นเทค "Terrific China" กลุ่มบริษัทจีนที่ไม่ได้แค่ “ใหญ่”
KEY
POINTS
- ที่ผ่านมา “หุ้นจีน” อาจไม่ได้อยู่ในลิสต์นักลงทุนทั่วโลก
- แต่ปี 2025 เริ่มโฟกัสหุ้นเทค "Terrific China" กลุ่มบริษัทจีนที่ไม่ได้มีดีแค่ “ใหญ่”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อของ “หุ้นจีน” อาจไม่ได้อยู่ในลิสต์โปรดของนักลงทุนทั่วโลกเท่าที่เคย แต่ในปี 2025 นี้ กลุ่มที่นักลงทุนกำลังเริ่มหันกลับมาจับตามองอีกครั้ง คือ หุ้นเทคโนโลยีจีนระดับแนวหน้า ที่บางคนขนานนามว่า Terrific China กลุ่มบริษัทจีนที่ไม่ได้แค่ “ใหญ่” แต่ยัง “กล้า” เปลี่ยนเกมโลก
ในเวทีการลงทุนโลก ถ้า หุ้นเทคโนโลยีอเมริกา อย่าง Apple, Amazon, Tesla คือ ขุนพลจากแดนตะวันตกที่ครองตลาดมายาวนาน หุ้นจีน อย่าง Xiaomi, Alibaba, BYD ก็คือคู่แข่งจากฝั่งตะวันออกที่พร้อมจะ “ท้าชน” ด้วยพลังแห่งจำนวนผู้บริโภคมหาศาล จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่ตลาดกำลังตั้งคำถามว่า “ใครจะเป็นผู้นำรอบต่อไปของเทคโนโลยีโลก”
“Terrific China” ไม่ใช่ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่เป็นฉายาที่สื่อถึง บริษัทเทคฯ จีนระดับหัวแถวที่กำลังฟื้นตัวจากช่วงมรสุม ทั้งด้านนโยบายกำกับดูแลและเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทเหล่านี้มีโมเดลธุรกิจแข็งแกร่ง ลูกค้าเป็นพันล้าน และยังไม่หยุดพัฒนา AI, คลาวด์, ยานยนต์ไฟฟ้า และอีคอมเมิร์ซ บทความนี้ของหลักทรัพย์บัวหลวง จะยกตัวอย่าง 6 บริษัทเทคจีน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ที่น่าจับตามาให้นักลงทุนได้รู้จักกัน
1. Alibaba Group Holding Limited (9988) - บริษัท E-Commerce ยักษ์ใหญ่จีน เจ้าของ Taobao และ Tmall อีกทั้งยังมีธุรกิจ Cloud ช่วยสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ
2. BYD Company Limited (1211) - บริษัทผู้ผลิตรถ EV และแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ควบคุมห่วงโซ่อุปทานครบวงจร ตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ ชิ้นส่วน ไปจนถึงการประกอบและจำหน่ายรถ EV
3. Baidu, Inc. (9888) - บริษัทเทคโนโลยีเจ้าของ Search Engine อันดับ 1 ของจีน ที่ได้ขยายธุรกิจไปยังยานยนต์อัตโนมัติ Apollo และ Cloud รวมถึง AI ผ่านแชทบอตอัจฉริยะ Ernie Bot
4. Ping An Insurance (Group) Company of China, Ltd. (2318) - บริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีบริการทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการให้บริการลูกค้า เช่น Ping An Good Doctor และOneConnect
5. Tencent Holdings Ltd. (700) - บริษัทเทคโนโลยีเจ้าของ WeChat แพลตฟอร์ม Social Media ครบวงจรที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในจีน และยังมีธุรกิจเกมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Honor of Kings
6. Xiaomi Corporation (1810) - บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะคุณภาพสูงในราคาเข้าถึงได้ เด่นเรื่องระบบนิเวศของอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมโยงกัน เสริม Loyalty ในแบรนด์และการเติบโตทั่วโลก
ผลตอบแทน 6 หุ้น Terrific China
จากตารางจะเห็นว่า Xiaomi คือ ผู้ชนะที่แท้จริงในกลุ่ม ด้วยผลตอบแทนเกือบ +185% ใน 1 ปี และ +364% ใน 3 ปี เป็นผลจากการขยายธุรกิจในอุปกรณ์อัจฉริยะ การบุก EV และการเติบโตในตลาดเกิดใหม่
สำหรับ BYD ยังคงแข็งแกร่งในฐานะผู้นำ EV ของจีน ด้วยผลตอบแทน 3 ปีที่ +71.7% โดยในรอบ 1 ปีล่าสุด พุ่งสูงถึง +72.8% จากยอดขายรถไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่ Alibaba ฟื้นตัวแรงหลังการปรับโครงสร้างองค์กร และการคลายแรงกดดันจากภาครัฐ
ส่วน Tencent ค่อยๆฟื้นด้วยโมเดลธุรกิจที่มีความหลากหลาย ทั้งเกม, คลาวด์, และ WeChat ecosystem
ทำไมช่วงนี้ 6 หุ้นเทพเซียนจีนฮ่องกง ถึงน่าจับตา ?
คำตอบ คือ . . .
1. เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีหลักของตลาดฮ่องกง: หุ้นกลุ่มนี้รวมกันคิดเป็นประมาณ 30% ของดัชนี Hang Seng ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง สะท้อนภาพรวมของหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูง และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่
2. จีนกำลัง “เปิดไฟเขียว” ให้เทคฯ ฟื้นตัว: รัฐบาลจีนเรียกบริษัทเทคฯ เข้าประชุม พลิกจากจัดระเบียบมาสนับสนุนหุ้นเทคฯ ลดความเข้มงวดในกฎระเบียบ ส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการสนับสนุนการเติบโตของภาคเทคโนโลยีอีกครั้ง
3. จากสงครามการค้ารอบใหม่ อาจกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งสนับสนุนบริษัทเทคฯ ต่อเนื่อง เพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ
4. ราคาหุ้นยังมีมูลค่าน่าสนใจ: เมื่อเทียบกับกลุ่ม Big Tech ของสหรัฐฯ หุ้นเทคจีนหลายตัวมี valuation ต่ำกว่ามาก และอัตราการเติบโตกลับเริ่มกระเตื้อง นั่นหมายถึง Upside ยังมี และความเสี่ยงก็เริ่ม “คุ้มค่า” สำหรับนักลงทุนที่มองไกล
5. AI คืออาวุธลับของจีน: ไม่ใช่แค่ตามหลัง แต่จีนกำลังไล่ทันในหลายด้าน เช่น โมเดล AI หรือการผลิต EV ของ BYD ที่ล้ำหน้าและราคาเข้าถึงง่าย เห็นได้ชัดจากกระแส DeepSeek สะท้อนว่าบริษัทเทคฯ จีนได้มีการพัฒนา AI มาต่อเนื่อง รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลเช่นกัน
หุ้น Terrific China ไม่ใช่แค่ความหวัง แต่คือทางเลือก...ในโลกที่ AI, EV และดิจิทัล คือ อนาคต ประเทศจีนกำลังเร่งสปีดเพื่อยกระดับเทคโนโลยีของตัวเอง และบริษัทในกลุ่ม Terrific China ก็คือหัวหอกของภารกิจนั้น
สำหรับนักลงทุนที่กล้ามองข้ามข่าวร้ายในอดีต วันนี้อาจเป็นวันแรกของการ “กลับมาครั้งใหม่” ของหุ้นจีนที่แท้จริง
ปัจจุบันนักลงทุนไทยสามารถเป็นเจ้าของ 6 หุ้นเทพเซียนจีนฮ่องกง เพียงค้นหา Ticker 9988, 1211, 9888, 2318, 700, 1810 ผ่านระบบซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ Global Trade Master หรือลงทุนผ่าน ETF ที่อ้างอิงกับ 6 หุ้นเทพเซียนจีนฮ่องกง เช่น ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF (3088), CSOP Hang Seng TECH Index ETF (3033) และ iShares Hang Seng TECH ETF (3067) เป็นต้น
ส่วนผู้ที่สนใจลงทุนผ่าน DR01 ก็สามารถลงได้ผ่าน DR BABA01, BYDCOM01, BIDU01, PINGAN01, XIAOMI01 และ TENCENT01 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา (ยกเว้น TENCENT01 ที่จะเข้าตลาดวันที่ 19 พ.ค.68)


