ยุทธการยึดแบงก์ชาติ ประชาชนได้อะไร? (ตอนจบ)
เก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ ยังขึ้นอยู่กับการรวมพลังของอดีตผู้ว่าฯ ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ และที่ต้องจับตาคือการแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติในสัปดาห์นี้ เป็นสัญญาณชี้ผู้ว่าฯ คนถัดไปว่าฝ่ายการเมืองจะแทรกแซงได้อีกหรือไม่???...
การปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หากจะเกิดขึ้นอีก ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในอดีตมีการปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ โดยฝ่ายการเมืองมาแล้ว 4 ครั้ง!?.....
ประเทศไทยมีผู้ว่าแบงก์ชาติมาแล้ว 23 คน ประกอบด้วย 1.พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย. 2485 จนถึงเดือน ต.ค. 2489 คนที่ 2.เสริม วินิจฉัยกุล 3.นายเล้ง ศรีสมวงศ์ 4.พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย 5.เล้ง ศรีสมวงศ์ 6.หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ 7.เสริม วินิจฉัยกุล 8.เกษม ศรีพยัคฆ์ 9.โชติ คุณะเกษม 10.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ 11.พิสุทธิ์ นิมมานเหมินท์ 12.เสนาะ อูนากูล 13.นุกูล ประจวบเหมาะ 14.กำจร สถิรกุล
15.ชวลิต ธนะชานันท์ 16.วิจิตร สุพินิจ 17.เริงชัย มะระกานนท์ 18.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ 19.หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล 20.หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล 21.ธาริษา วัฒนเกส 22.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล และ 23.วิรไท สันติประภพ เมื่อรวมคนปัจจุบันคือ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ นับเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติคนที่ 24
ย้อนไปดู 4 ครั้ง 4 คน ที่ถูกปลดจากตำแหน่งโดยฝ่ายการเมือง 1.โชติ คุณะเกษม ผู้ว่าการคนที่ 9 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลมีความเกี่ยวข้องการว่าจ้างต่างชาติพิมพ์ธนบัตร 2.นุกูล ประจวบเหมาะ ผู้ว่าการคนที่ 13 ถูกปลดโดย สมหมาย ฮุนตระกูล รมว.คลัง ด้วยเหตุอยู่ในตำแหน่งมาครบ 4 ปี ต้องหาคนอื่นมาทำหน้าที่แทน
รายที่ 3.กำจร สถิรกุล ผู้ว่าการคนที่ 14 ถูกปลดโดย รมว.คลังที่ชื่อ ประมวล สภาวสุ ปัญหาความขัดแย้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย และ 4.หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หรือ “หม่อมเต่า” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 19
ถูกปลดเมื่อครั้ง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็น รมว.คลัง ที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย!!!...
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พ.ค.2544 มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลสั่งเด้ง “หม่อมเต่า” พ้นเก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ วงการแบงก์พาณิชย์เชื่อว่าเกิดจากความขัดแย้งเรื่องค่าเงินบาทและดอกเบี้ย รวมถึงความกระด้างกระเดื่องของ หม่อมเต่า ที่ไม่สนับสนุนนโยบายการผ่อนปรนสินเชื่อรายย่อยตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ
สำหรับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการคนที่ 24 ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2563 และจะครบวาระในวันที่ 30 ก.ย.2568 แม้จะเหลือระยะเวลาอีกเกือบปี ทว่าความไม่แน่นอนบนเก้าอี้ผู้ว่าฯ เริ่มสั่นคลอน จากความขัดแย้งนโยบายกับรัฐบาล ภายใต้นายกฯ ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องถืงนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เชื่อว่าจะเป็นหนังชีวิต ดราม่า อย่างแน่นอน
อนาคตแบงก์ชาติหลังจากนี้ นอกจากขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายการเงินในประเด็นสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยไม่ลืมปัญหาเชิงโครงสร้าง ยังขึ้นอยู่กับการรวมพลังของผู้ว่าในอดีตที่วันนี้ออกมาต่อสู้กับฝ่ายการเมืองว่าจะทรงพลังมากน้อยแค่ไหน ยังมีปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกับกระแสสังคม
ที่ลืมไม่ได้คือผลการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติในสัปดาห์นี้ จะเป็นด่านแรกกับเข็มทิศกำหนดผู้ว่าแบงก์ชาติคนถัดไป จะเป็นใคร ใช่คนของฝ่ายการเมือง คนของพรรคเพื่อไทย หรือไม่???...
“เศรษฐพุฒิ” จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ไม่น่าจะมีอุบัติเหตุใดๆ ทว่าครบเทอมแล้วฝ่ายการเมืองจะส่งคนของตัวเองเข้าไปหรือไม่ เป็นคำถามตัวโต เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย เงิน การส่งออก ส่งผลต่อหนี้ครัวเรือนและกระเป๋าเงินของคนไทย
การปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ หากว่ากันตามกฎหมายระบุไว้ หากไม่ใช่ความผิดร้ายแรง รัฐบาลมิอาจปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ ตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2485 ฉบับปรับปรุงล่าสุด 2551 มาตรา 28/19(4) บัญญัติไว้ว่า "...คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่..."
มาตรา 28/19(5) บัญญัติว่า "... คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี หรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง..."
หากรัฐบาลจะปลดผู้ว่าเศรษฐพุฒิ ต้องไปหาว่าบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ อย่างไรให้ชัดแจ้ง กฎหมายจึงไม่น่าจะเป็นตัวตัดสิน... “จริยธรรม” และ “จิตสำนึก” ต่างหากที่ทั้งสองฝ่ายรู้อยู่ดีแก่ใจ อย่าทำให้คนไทยเดือดร้อน เพราะต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์อคติ ถือทิฐิ จนเศรษฐกิจไทยพังกันทั้งประเทศ!!!???.....
แมน ซิตี้ไดมอนด์


