posttoday

เทคนิคเด็ด! ลงทุนหุ้นโลก ผ่าน “DR บนกระดานหุ้นไทย” หรือ “กองทุนรวม” ดีอย่างไร

23 มีนาคม 2567

การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆมีช่วงที่ให้ผลตอบแทนดีและไม่ดีแตกต่างกันไป ดังนั้นการกระจายความเสี่ยง คือ หัวใจสำคัญของการลงทุนที่จะช่วยทำให้คุณไม่กลายเป็นผู้ประสบภัย

     วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวงจะพามาดูอีกหนึ่งทางเลือกกระจายการลงทุนไปหุ้นต่างประเทศแบบง่าย ๆ ผ่านรูปแบบ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) และ กองทุนรวมกัน 

     3 หลักการลงทุนง่าย ๆ ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงที่ตลาดผันผวน 

     •    กระจายการลงทุนไปทั่วโลก เราไม่ควรลงทุนกระจุกตัวอยู่ในสินทรัพย์ใด้สินทรัพย์หนึ่ง 

     •    ลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การลงทุนระยะยาว จะช่วยลดความผันผวนของตลาดหรือสินทรัพย์ได้ 

     •    เน้นการลงทุนแบบ DCA เป็นรางวัลของคนขยัน มีระเบียบวินัย ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ เก็บเล็กผสมน้อยก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน และสร้างความมั่งคั่งให้พอร์ตเราได้

     หลายคนสงสัยแล้วจะเลือกลงทุนอะไร เพื่อช่วยลดความผันผวน เรารวมคำตอบมาให้แล้ว 

     1. ลงทุนผ่าน ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) ปัจจุบันหลักทรัพย์บัวหลวง เป็นผู้ออก DR ทั้งหมด 10 หลักทรัพย์ ครอบคลุมการลงทุนในดัชนีหลักของตลาดหลักทรัพย์ 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ฮ่องกง เวียดนาม และหุ้นสามัญในตลาดยุโรป ซึ่งนักลงทุนสามารถค้นหาได้ในชื่อ 

     “E1VFVN3001” DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น DCVFMVN30 ETF (E1VFVN30.VN) อ้างอิงดัชนี VN 30 ลงทุนในหุ้นเวียดนามชั้นนำ 30 ตัว 

     “FUEVFVND01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ DCVFMVN DIAMOND ETF (FUEVFVND) ลงทุนอิงดัชนี VN Diamond หุ้นเวียดนาม 18 ตัว ที่มีข้อจำกัดด้าน Foreign Ownership Limit (FOL)

     “NDX01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086) อิงดัชนี NASDAQ 100 ประกอบด้วยหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 105 ตัว เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

     “STAR5001” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ Premia China STAR50 ETF (3151) ลงทุนอิงดัชนี STAR 50 หุ้นเทคโนโลยี และนวัตกรรมบนกระดาน STAR จำนวน 50 ตัว

     “CN01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (3188) อิงดัชนี CSI 300 หุ้นจีน A-Share ชั้นนำขนาดใหญ่ 300 ตัวแรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น

     “CNTECH01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF (3088) ที่ลงทุนอิงดัชนี Hang Seng TECH บริษัทเทคฯ จีน เป็นที่รู้จักระดับสากล 30 ตัว ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

     “HK01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ Tracker Fund of Hong Kong (2800) ลงทุนอ้างอิงดัชนี Hang Seng ที่สะท้อนภาพรวมตลาดหุ้นฮ่องกงโดยรวม ปัจจุบันประกอบด้วยหุ้นบริษัทจีนและฮ่องกง 80 ตัว ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

     “HKCE01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ Hang Seng China Enterprises Index ETF (2828) อิงดัชนี Hang Seng China Enterprises บริษัทจีนขนาดใหญ่ 50 ตัว ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง

     “LVMH01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ หุ้นสามัญของบริษัท LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE (MC) เจ้าของอาณาจักรแบรนด์หรูระดับโลก

     “ASML01” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ หุ้นสามัญของบริษัท ASML Holding N.V. (ASML) ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลก

     ข้อดีของการลงทุนหุ้นต่างประเทศผ่าน DR คือ 1. ซื้อขายเรียลไทม์ผ่านตลาดหุ้นไทย ไม่มีพักกลางวัน 2.ลงทุนง่ายด้วยสกุลเงินบาท 3.ใช้เงินเริ่มต้นลงทุนไม่มาก 1 DR ก็ลงทุนได้ และ 4.ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ 2 ต่อ

     ซึ่งการลงทุนผ่าน DR จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ, ต้องการความสะดวกสบายในการลงทุนต่างประเทศ, รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง-สูง และเคยลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว 

     ส่วนเรื่อง ความเสี่ยงในการลงทุน DR ก็มีด้วยกัน ดังนี้ 
     •    ความเสี่ยงจากผู้ออกตราสาร เพราะตราสารออกโดยสถาบันการเงินผู้ออกฯ จึงควรต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสาร 
     •    ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง และ DR 
     •    ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 
     •    ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องการซื้อขาย DR อาจไม่มีสภาพคล่องตลอดเวลา เพราะอาจต้องอิงกับเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ 

     2. ลงทุนหุ้นโลก ผ่าน “กองทุนรวม” หรือ Mutual Fund เครื่องมือการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ผู้ซื้อหลาย ๆ รายนำเงินมารวมกันผ่านการซื้อหน่วยลงทุน แล้วให้คนเก่ง ๆ มาบริหารให้ คน ๆ นั้นเราเรียกว่า “ผู้จัดการกองทุน” ทั้งนี้การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะเหมาะกับนักลงทุนที่
     •    มีเงินไม่มากแต่อยากลงทุน 
     •    ไม่ค่อยมีความรู้ในการเลือกหุ้น 
     •    ไม่มีเวลาในการติดตาม 
     •    ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี

     แล้ว ความแตกต่างระหว่างหุ้นและกองทุนคืออะไร

     •    ความเป็นเจ้าของ : ถ้าลงทุนในหุ้นจะมีความเป็นเจ้าของตรง แต่ถ้าลงทุนในกองทุนจะมีความเป็นเจ้าของทางอ้อม

     •    การเลือกหุ้น : ถ้าลงทุนในหุ้นสามารถเลือกและบริหารเองได้ (ความยืดหยุ่นมากกว่า) แต่ถ้าลงทุนในกองทุนจะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบริหารให้ (ความยืดหยุ่นน้อยกว่า) 

     •    ความเสี่ยง : ลงทุนในหุ้นจะมีความเสี่ยงสูง ส่วนลงทุนในกองทุนจะมีความเสี่ยงต่ำไปถึงสูง

     •    ราคาที่ซื้อ : ลงทุนในหุ้นสามารถกำหนดเองได้ แต่ถ้าลงทุนในกองทุนจะมี NAV สิ้นวัน

     •    สิทธิประโยชน์ทางภาษี : ลงทุนในหุ้นไม่มี ส่วนกองทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ (กองทุน SSF, RMF)

     สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมอะไร รายงาน BLS Top Funds ของหลักทรัพย์ บัวหลวง จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยการลงทุนให้กับผู้ลงทุน เพราะเราได้คัดเลือกกองทุนรวมที่มีผลงานโดดเด่นจาก 17 บลจ.ชั้นนำทั่วประเทศ ผ่านแนวทางการลงทุนของผู้เชี่ยวชาญการลงทุนมืออาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่า เราจะคัดสรรกองทุนเด่นให้กับผู้ลงทุนอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเข้าจับจังหวะลงทุนไปกับ Tactical Funds Portfolio ของเรา สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศด้วย DR หรือกองทุนรวม สามารถเปิดบัญชีหุ้นและกองทุนออนไลน์ได้ที่ www.bualuang.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111

สรุปความแตกต่างระหว่างการลงทุนผ่าน DR และกองทุนรวม

เทคนิคเด็ด! ลงทุนหุ้นโลก ผ่าน “DR บนกระดานหุ้นไทย” หรือ “กองทุนรวม” ดีอย่างไร