posttoday

เงินบริจาคไม่สูญเปล่า กิจการนำมาหักภาษีได้ถึง 2 เท่า

01 มีนาคม 2566

เมื่อรอบระยะเวลาบัญชีเวียนมาถึง เจ้าของธุรกิจต่างต้องมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้ ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจสามารถนำรายจ่ายในส่วนของการบริจาคบางประเภทมาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มจากปกติได้อีกด้วย

     เมื่อรอบระยะเวลาบัญชีเวียนมาถึง เจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทเป็น “นิติบุคคล” ต่างต้องมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้ ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจสามารถนำรายจ่ายในส่วนของการบริจาคบางประเภทมาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มจากปกติได้อีกด้วย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในการเสียภาษี   
     โดยเงินบริจาคที่ทางบริษัทบริจาคไปนั้น ถือว่าเป็นรายจ่ายที่สามารถนำไปใช้หักในการคำนวณกำไรสุทธิได้ โดยเฉพาะการบริจาคเงินในบางประเภท สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้สูงสุดถึง 2 เท่า! แต่จะมีเงื่อนไขหรือหลักเกณฑ์อะไรบ้างลองตามมาเช็กกันดู

เงินบริจาคสถานพยาบาลของรัฐ...ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า 

     บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่บริจาคเงินและทรัพย์สินให้กับสถานพยาบาลของทางราชการ สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาคไป โดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้กับกิจการสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน หรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของทางราชการ สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

     ซึ่งการบริจาคนี้หมายรวมถึงสถานพยาบาลที่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายกำหนดว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและรวมถึง สถานพยาบาลของสถาบันการศึกษาของรัฐ สถานพยาบาลขององค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน สถานพยาบาลของรัฐวิสาหกิจที่เป็นองค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ สถานพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานพยาบาลของหน่วยงานอื่นของรัฐ สถานพยาบาลของสภากาชาดไทย

ข้อสำคัญ ผู้บริจาคอย่าลืมเก็บใบเสร็จต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานในการคำนวณรายจ่ายด้วย

เงินบริจาคสถานศึกษาของทางราชการ...ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า 

     กิจการที่บริจาคเงินและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่ สถานศึกษาของทางราชการ สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า ของรายจ่ายที่จ่ายไป แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้

     1.นิติบุคคลบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาให้แก่ สถานศึกษาของทางราชการ สถานศึกษาขององค์การของรัฐบาล โรงเรียนเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนและสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
          1.1 บริจาคในโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ ได้แก่ สถานศึกษาตามโครงการพระราชดำริสถานศึกษาตามนโยบายที่จะระดมพลังเพื่อเร่งรัดปรับปรุงคุณภาพ และสถานศึกษาที่รองรับพัฒนาเด็กด้อยโอกาส เด็กพิการ
          1.2 บริจาคให้แก่ สถานศึกษาตามรายชื่อที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด
          1.3 บริจาคเพื่อการจัดหา หรือจัดสร้างอาคาร อาคารพร้อมที่ดินหรือที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในทางศึกษา
          1.4 บริจาคเพื่อการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (กรณีบริจาคเป็นคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์จะต้องเป็นของใหม่ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน)
          1.5 ต้องมีหลักฐานจากสถานศึกษาที่พิสูจน์ได้ว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปนั้น เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ (มีใบเสร็จของสถานศึกษา)

ข้อความสำคัญ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเมื่อใช้สิทธิตามมาตรานี้แล้ว จะต้องไม่นำเงินบริจาคดังกล่าวไปหักเป็นรายจ่ายเพื่อการศึกษาอีก
ข้อความสำคัญ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ จะต้องไม่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น

     2.กรณีนิติบุคคลบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนด้านสันทนาการในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ สนามกีฬาของทางราชการหรือของเอกชนที่เปิดให้บริการเป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการใดๆ

     รายจ่ายที่จ่ายไปเพื่อสนับสนุนด้านสันทนาการนี้ เมื่อไปรวมกับรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว จะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของ กำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อสาธารณประโยชน์และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา โดยหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายไป

เงินบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์กรมสรรพากร...ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า 

     ในส่วนของการบริจาคให้กับมูลนิธิ กิจการสามารถหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค หากทำการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรให้แก่มูลนิธิ 3 แห่ง ดังนี้ 
     1.มูลนิธิชัยพัฒนา
     2.มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
     3.มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

     และยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมากจากการบริจาคให้แก่มูลนิธิดังกล่าว ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

     โดยการบริจาคผ่านระบบ e-Donation จะสามารถหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า โดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคไว้ เพราะเป็นระบบบริจาคเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่กรมสรรพากรใช้รองรับข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยงานต่างๆ เพื่อความสะดวก

รู้สิทธิลดหย่อน...ลดภาระภาษีแบบสุขใจ

     จากหลากหลายช่องทางการบริจาคนั้น จะช่วยส่งเสริมให้เจ้าของธุรกิจต่างๆ ที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอแบ่งปันให้กับโรงเรียน โรงพยาบาลในภาครัฐ  มูลนิธิต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าทีเดียว ซึ่งมาตรการนี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อผู้ให้และผู้รับเป็นอย่างมาก 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ Inflow Accounting