posttoday

อำนาจลึกลับเป่าคดี ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ รอดจำนำข้าว

22 ธันวาคม 2565

อำนาจลึกลับเป่าคดี ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ รอดจำนำข้าว เปิดเกมต่อรองร่วมตั้งรัฐบาลใหม่ ถือเป็นเงื่อนไขที่มิอาจปฏิเสธได้จริงหรือ?

อำนาจลึกลับเป่าคดี ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ รอดจำนำข้าว

กว่า 500,000 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายโครงการจำนำข้าว ที่มีการทุจริตกันโจ่งครึ่ม ยังคงฝังลึกในความทรงจำของคนไทยมิอาจจจะลืมเลือนได้ เป็นการทุจริตเชิงนโยบายหลายชนชั้นราชการการเมืองคหบดีรวมหัวกันหาช่องว่าดูดเงินรัฐมาเป็นของพวกตน 

10 ปีแห่งมหากาพย์ทุจริตระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก แสงสว่างความยุติธรรมไทยส่องประกายทันที เมื่อปี 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 3 นักการเมืองตัวเอ้ คนแรก บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ คนที่สอง ภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และหมอโด่ง พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขาฯ รัฐมนตรีพาณิชย์  คนนี้...หนีไปก่อนเพื่อนเลยตั้งแต่คดีอยู่ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. และปัจจุบันยังไม่เคยพบเจอตัว  

จีทูจีล็อตสองร้อนฉ่าทันที เมื่อปี 2561 มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงาน ป.ป.ช. เดินทางเข้าไปพบกับ บุญทรง เพื่อขอให้ “รับสารภาพ” ในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสอง แลกกับการขอกันตัวเป็นพยาน เพื่อให้ไม่ต้องโทษในคดีระบายข้าวล็อตสองนี้ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเจ้าตัวถูกจำคุกชดใช้บ่วงกรรมจำนำข้าวล็อตแรกอยู่ ประกอบกับพวกเอกชนโรงสีข้าวให้การต่อ ป.ป.ช.เพิ่มเติมว่า ในการเจรจาซื้อขายข้าวจีทูจีนั้น ได้บินไปพบนักการเมืองใหญ่ที่ดูไบ และได้ชี้ช่องมาว่า “หากต้องการซื้อข้าวให้ติดต่อกับเสี่ยเปี๋ยงได้เลยโดยตรง” และยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่อ้างว่ามีคลิปลับเกี่ยวข้องกับการสั่งการระบายข้าวจีทูจีจะมอบให้ ป.ป.ช.เพื่อเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักมากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้...คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสองจึงมีการเพิ่มชื่อ 2 พี่น้อง ‘ชินวัตร’ อดีตนายกฯ ทั้งคู่ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ พร้อมพ่วงเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน เข้าไปด้วย จึงเป็นเหตุให้ตกป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ทันที

แน่นอนว่าแนวทางการพิสูจน์และการพิจารณาในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีล็อตสองนี้ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร เพราะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่วันนี้ประชาชนถึงกับหงายหลังและตั้งข้อสงสัยกันมาก ทันทีที่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา...มีมติตีตกข้อกล่าวหา ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และ เยาวภา คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีล็อตสอง โดยให้เหตุผลว่า “เคยตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรกมาแล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะนั้น มีมติไม่แจ้งข้อกล่าวหา ดังนั้นการนำบุคคลทั้ง 3 รายมาแจ้งข้อกล่าวหา และพิจารณาอีกครั้ง เข้าข่ายไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย และเป็นการฟ้องซ้ำ” แหม่...การที่ยกเหตุผลเช่นนี้ ผู้ที่อ่านกฏหมายไม่ค่อยรู้ ดูกฏหมายไม่ค่อยเป็นอย่างมังกรเขี้ยวแก้ว ถึงกับต้องร้อง โอ้ละพ่อ!! มันต่างกรรมต่างวาระหรือป่าว?

เอาอย่างนี้แล้วกัน...มังกรเขี้ยวแก้วขอไล่เรียงเป็นลำดับชั้นความผิดของ 2 ล็อตความเสียหายคดีระบายข้าวจีทูจีก็แล้วกันให้เห็นกันชัด ๆ ว่าพฤติกรรมความผิดเป็นเช่นไร

การระบายข้าวจีทูจีรอบแรกและรอบที่สองนั้น ลำดับชั้นลำดับขั้นกระทำความผิดหรือพฤติกรรมความผิดมีลักษณะเดียวกัน คนทำผิด นักการเมือง -> ข้าราชการ -> เอกชน โดยมีพฤติกรรมความผิดด้วยการ ตั้งนอมินี -> นำข้าวออกมาวนขาย -> ให้กับบริษัทจีนที่ไม่ได้เป็นตัวแทนทางการจีนตามสัญญามาตรฐานจีทูจีซึ่งไม่มีการส่งออกข้าวตามออเดอร์จริง แต่กลับมาวนขายภายในประเทศ 
 

ซึ่งจำเลยสำคัญที่รับความผิดแล้วในคดีรอบแรกคือ บุญทรง แต่ได้รับการกันตัวไว้เป็นพยานในคดีจีทูจีรอบสอง นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่า จำเลยให้การอันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมากในการสืบเสาะไปถึงผู้ที่มีอำนาจสั่งการเหนือกว่าตน โดยมีน้ำหนักในความเป็นไปได้อย่างมาก ป.ป.ช.ถึงเลือกที่จะกันไว้เป็นพยานตั้งแต่ต้น 

 เอาล่ะ…การตีตกข้อกล่าวหา ของ 3 ผู้ถูกกล่าวที่เพิ่มเติมมาใหม่ หากจะอ้างว่า “บุญทรง ไม่มีเทปลับบทสนทนาอยู่จริง จึงไม่มีพยานหลักฐานใหม่มาพิจารณา ให้ข้อกล่าวหาตกไป” แต่เรื่องที่อนุกรรมการได้ไต่สวนกลุ่มเอกชนที่บินลัดฟ้าไปพบขาใหญ่ถึงดูไบเพื่อขอปิดดีลข้าวและเมสเสจกลับมาว่า “หากต้องการซื้อให้ติดต่อกับเสี่ยเปี๋ยงได้เลยโดยตรง” นั้นอยู่ในสำนวนหรือไม่? และคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้นำมาพิจารณาหรือไม่ เพราะนั่นคือพยานหลักฐานสำคัญที่ระบุด้วยตัวบุคคล น้ำหนักพยานลักษณะนี้ ท่านชั่งอย่างไร ช่วยตอบประชาชนหน่อย…
 
ด้วยความสงสัยคดีจำนำข้าวนี้ดูเหมือนก่อนหน้านี้จะเป็นชนักติดหลังในการแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย แต่มาช่วงหลัง ๆ ใกล้เลือกตั้งใหม่ ดูเหมือนทางเดินชินวัตรมีคนกวาดถางทางให้ แปลก แปลก แปลก…แต่ที่สุดก็หนีไม่พ้นสายตามังกรเขี้ยวแก้วไปได้ การที่กระบวนการพิจารณาของป.ป.ช.ชุดนี้ชวนให้สงสัยอยู่หลายประการเหมือนมีอำนาจลึกลับจากคนบางคนใช้เพียงลมปากเป่าตัดตอนผู้ถูกกล่าวหา
 
แน่นอนเป็นไปตามข้อสงสัย หรือข้อครหาดีลลับที่เกรียวกราวอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งผู้ที่จะชักใยคุมเกม แน่นอน…ต้องระดับบิ๊กบราเธอร์เท่านั้น
 
วันนี้...เราคนไทยคงสิ้นหวัง และคงต้องเลิกเรียกร้องหาการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น โดยคนไทยกำลังขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมเบื้องต้นจนแทบไม่เหลือหลอจากพฤติกรรมการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่สามารถอยู่บรรทัดฐานเดียวกันได้ องค์กรอิสระหลายแห่งกำลังถูกท้าทายในการทำหน้าที่ให้ได้เป็นไปตามชื่อและเจตนารมณ์ในการตั้งองค์กรหรือไม่?