posttoday

ทำไมหุ้นเอเชียจึงน่าสนใจ?

14 สิงหาคม 2563

คอลัมน์ เข็มทิศนักลงทุน โดย...กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย

จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อและยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด ทำให้ทั่วโลกต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับโลกของการลงทุน หากรอให้สถานการณ์คลี่คลายแล้วค่อยลงทุนอาจจะไม่ทันการณ์ได้ เพราะถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดนี้จะยังดูรุนแรง แต่โอกาสในการลงทุนยังมีอยู่ ซึ่งวันนี้ ผมขออนุญาตมาแนะนำความน่าสนใจของหุ้นเอเชียให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ

ทำไมหุ้นเอเชียจึงน่าสนใจ?

1. จำนวนประชากร ซึ่งหากนับแค่ประชากรของจีนและอินเดียก็มีมากถึง 58% ของประชากรโลกแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้บริโภคสินค้าและบริการรายใหญ่อีกด้วย ทำให้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทต่างๆ ในภูมิภาคนี้มีสูงมาก

2. หุ้นเอเชียยังมีสัดส่วนที่น้อยในดัชนีหุ้นโลก (MSCI ACWI) ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market capitalization) แม้ว่า Economic exposure ของเอเชียจะมีมากถึง 30% ของ GDP ดังนั้น หุ้นเอเชียจึงยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว และหากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น หุ้นเอเชียที่มีคุณภาพสูง (ไม่นับญี่ปุ่น) ยังมี Return on Invested Capital (ROIC*) หรือผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าและมีแนวโน้มเติบโตดีกว่า

3. ในสถานการณ์ปัจจุบัน ธนาคารกลางทั่วโลกต่างรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพยายามลดผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ด้วยการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่ขาดสายและดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้มีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนในหุ้นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยหนุนจากการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องและการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกในระยะที่ผ่านมา ส่งผลต่อแนวโน้มในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว

และในเร็วๆ นี้ บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดเสนอขายกองทุนใหม่ที่มีความน่าสนใจหลักๆ อยู่ 2 ประการ ได้แก่

ประการแรก เป็นกองทุนหุ้นเอเชียกองทุนเดียวในอุตสาหกรรมที่มีโมเดลควบคุมความเสี่ยง กล่าวคือ เวลาที่ตลาดหุ้นใดมีความผันผวนมากขึ้น โมเดลจะปรับลดการถือครองหุ้นมาถือครองเงินสดหรือตราสารหนี้มากขึ้น และเมื่อตลาดหุ้นใดๆ มีความผันผวนน้อยลง โมเดลจะปรับเพิ่มการถือครองหุ้นให้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนไม่ต้องคอยจับจังหวะเข้าลงทุนเองและยังช่วยลดโอกาสในการขาดทุนลง รวมถึงยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนอีกด้วย

ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ กองทุนจะกระจายการลงทุนผ่าน 2 กองทุนหลัก (Active Funds) โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง (Growth) เป็นหุ้นขนาดใหญ่ และ High Conviction กล่าวคือทั้ง 2 กองทุนจะลงทุนในหุ้นเพียง 25–40 ตัว สำหรับรายประเทศจะเน้นลงทุนในจีน โดยมีมุมมองบวกจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตบนพื้นฐานการพึ่งพิงการบริโภคภายในประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนจะดำเนินต่อไปได้ และเน้นบริษัทรายใหญ่ในจีน (Large cap) เนื่องจากมักจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก และราคาหุ้นยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นและราคาในอดีต

สำหรับท่านที่มีประสบการณ์การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ในระยะยาว คือ มากกว่า 5 ปีขึ้นไปและคาดหวังผลตอบแทนจากหุ้นเอเชียที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชีย ก็สามารถติดตามข่าวสารการเปิดเสนอขายกองทุนดังกล่าวได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ครับ

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68