สายพิณที่ตึงเกินไป
บ้านเมืองเราก็แปลก ที่พอทำอะไรถ้าไม่ขาดก็มักจะเกิน
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
บ้านเมืองเราก็แปลก ที่พอทำอะไรถ้าไม่ขาดก็มักจะเกิน
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นคือ ประกาศของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่ง ที่ครอบคลุมถึงภริยา บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
เพราะงวดล่าสุดไปกินความถึงนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยด้วย
สมชัย ศรีสุทธิยากร รักษาการแทนคณบดี สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว บรรยายให้เห็นภาพว่า ความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดกับสถาบันการศึกษาของรัฐ
การบังคับให้นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภา ต้องอยู่ในเงื่อนไขการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน จะทำให้เกิดการลาออกจากตำแหน่งเป็นขบวน
ตำแหน่งเหล่านี้ ทำงานเชิงนโยบาย กำกับการทำงานของอธิการบดีอีกทอด ไม่เกี่ยวพันกับการบริหารงานตามปกติ
กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนมาก ยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นเลยจากการทำงานประจำ บางท่านสูงอายุ แต่มากด้วยประสบการณ์ และปรารถนาช่วยเหลือสร้างความเจริญให้แก่มหาวิทยาลัย จึงปวารณาตัวเข้ามาเป็นกรรมการสภาด้วยเบี้ยประชุมไม่กี่พันบาท
เป็นตำแหน่งที่ไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีทีมงาน ไม่มีเลขาฯ ที่จะมานั่งกรอกรายการบัญชีทรัพย์สิน
หากแจ้งไม่ครบ เช่น ยืมเพื่อนมาแต่มาโชว์ให้คนอื่นเห็น ก็เป็นเรื่องเป็นราวต้องแก้ตัวกันพัลวันเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยแก่สังคม หรือหากตกหล่นจริงอีก ก็กลายเป็นคดีความคดีอาญาถึงขั้นติดคุกติดตาราง
กระบวนการทั้งหมดมีเวลา 30 วันหลังจากประกาศ ป.ป.ช. หากไม่ยื่นก็ต้องลาออก
สมชัยเชื่อว่ามีใบลาออกเกินกว่าครึ่งของกรรมการสภาทุกมหาวิทยาลัยที่พิมพ์เสร็จแล้ว เพื่อรอยื่นก่อนสิ้นเดือนนี้
เป็นการลาออกที่ไม่ใช่หนีการตรวจสอบ แต่เพราะรำคาญกับระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่จำเป็น
มหาวิทยาลัยรัฐทุกแห่งจะมีกรรมการสภาเหลือไม่ถึงครึ่ง จะประชุมได้หรือไม่ วาระต่างๆ จะคั่งค้างไปอีกกี่เดือนกว่าจะสรรหาคนใหม่มา เรื่องสำคัญต่างๆ ของมหาวิทยาลัยที่ต้องตัดสินใจโดยสภาจะถูกชะลอออกไปอีกถึงเมื่อใด
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.กำหนดให้อธิการบดีและรองอธิการบดีต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ทำให้รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐบางแห่งลาออกยกทีม
เหตุผลที่แท้คือ รำคาญที่ทำงานเสียสละให้มหาวิทยาลัยแล้วยังต้องมาแจ้งทรัพย์สิน ประกาศต่อสาธารณะ
แม้ข้อดีคือความสามารถไปบอกชาวโลกได้ว่าประเทศโปร่งใส แม้ตำแหน่งที่ไม่ใช่บริหารแค่กำกับนโยบาย ยังบังคับให้แจ้งทรัพย์สิน ดูดีที่จะไปสื่อสารกับชาวโลก แต่ข้อเสียที่จะตามมามีมหาศาล
ถ้าแปลความหมายจากที่สมชัยบอก ก็อาจกล่าวได้ว่า การทำงานของ ป.ป.ช. ดูเท่แต่กินไม่ได้ ซ้ำร้ายสร้างผลเสียต่อเนื่อง
เหมือนพิณ 3 สาย ที่หย่อนไปก็ไม่ได้ความ ตึงก็จะขาดง่ายๆ
ส่วนที่จะทำให้พอดีๆ เห็นทีจะยาก ถ้ามองว่าทุกคนจ้องจะโกง
มันก็ออกมารูปแบบนี้แหละ แม่จำเนียร