posttoday

อวสานเจเจกรีน

18 กันยายน 2561

กทม. ต้องส่งมอบคืนพื้นที่ตลาดนัดกลางคืน เจเจ กรีน เขตจตุจักร คืนให้แก่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ภายในวันที่ 12 ก.ย.นี้

โดย..แสงตะเกียง

กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่าสัญญาเช่าพื้นที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ (ตลาดนัดกลางคืน เจเจ กรีน เขตจตุจักร) ระหว่าง กทม.กับมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ฉบับลงวันที่ 15 ธ.ค. 2559 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ ได้ครบกำหนดระยะเวลา เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ กทม.ต้องคืนพื้นที่ให้แก่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในสภาพที่เรียบร้อย

โดย กทม.ได้ประกาศล่วงหน้าขอความร่วมมือผู้ค้างดใช้พื้นที่มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา และขอให้ขนย้ายทรัพย์สินให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 ก.ย. เพื่อให้การส่งมอบคืนพื้นที่ด้วยความเป็นระเบียบและดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลาตามสัญญา ก่อนจะทำการปิดกั้นพื้นที่เพื่อดำเนินการส่งมอบคืนในที่สุด

ทว่าตลาดนัดเจเจ กรีน ยังไม่ได้ทำการรื้อถอนอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านเสื้อผ้าและโซนอาหาร ทั้งหมดยังอยู่ครบ มีเพียง 2-3 ร้านเท่านั้นที่ผู้ค้าได้ทำการขนสินค้าออกไปแล้ว

ขณะเดียวกัน พื้นที่ที่เป็นลานให้ผู้ค้าเปิดเต็นท์ทำการค้าและแผงค้ายังมีถังน้ำแข็ง เต็นท์ผ้าใบตั้งวางจับจองพื้นที่ไว้ เพื่อเตรียมจำหน่ายในคืนวันศุกร์-อาทิตย์ ปัจจุบันเป็นสถานที่จอดรถตู้โดยสาร รถยนต์บางส่วน โดยมีเจ้าหน้าที่ของตลาดนัดเจเจ กรีน คอยเก็บค่าจอดรถยนต์ที่เข้า-ออกตามเดิม

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่หมดสัญญาลงแล้วแต่ผู้ค้ายังคงขายของอยู่เหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะบริษัทเอกชนซึ่งเช่าพื้นที่ กทม.ทำตลาดนัดเจเจ กรีน แจ้งกับผู้ค้าว่าทางตลาดจะทำการปิดตัวลงในวันที่ 12 ต.ค.นี้ สุดท้ายหนีไม่พ้นผู้ค้าตลาดนัดเดินทางมายื่นเรื่องขอให้ กทม.ช่วยขยายเวลาเปิดให้ค้าขายได้ไปจนถึงสิ้นปี 2561

ซึ่งหาก กทม.ยินยอมทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ค้า อนุญาตให้ขายต่อไป ก็เท่ากับว่า กทม.ยอมรับสภาพการผิดสัญญาส่งคืนพื้นที่ไม่ทัน เป็นแบบนั้นใครจะรับผิดชอบไหว

อย่างไรก็ตาม การส่งมอบคืนพื้นที่ตลาดนัด เจเจ กรีน นำไปสู่การเดินหน้าโครงการอุทยานสวนจตุจักร ซึ่งเป็นการเชื่อมสวนสาธารณะ 3 แห่ง ประกอบด้วย สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ให้เป็นพื้นที่เดียวกัน

ขณะนี้ กทม.ได้ออกแบบและร่างทีโออาร์เสร็จแล้ว เตรียมประกาศหาผู้รับจ้างเพื่อเข้ามาดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งผู้เช่าจะเปิดทำการค้าต่อไปไม่ได้ เนื่องจากสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว และ กทม.ไม่ขอต่อสัญญาเช่า

ปัจจุบันทางบริษัทเอกชน ผู้เช่าพื้นที่ได้คืนค่ามัดจำให้แก่ผู้ค้าแล้วทุกราย พร้อมจัดหาพื้นที่ขายแห่งใหม่ไว้รองรับ ได้แก่ 1.จตุจักรเพลย์กราวด์ อาคารบางซื่อจังก์ชั่น (ตึกแดง) ถนนกำแพงเพชร ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร และ 2.ตลาดสวนลุมไนท์บาซาร์ ถนนรัชดาภิเษก ฉะนั้นผู้ค้าที่ยังไม่ออกจากพื้นที่ คือ กลุ่มคนที่ดื้อดึงฝ่าฝืนและกีดกันผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

เพราะแน่นอนว่า การได้มาซึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย เข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเสรี ย่อมคุ้มค่ามากกว่าปล่อยให้คนบางกลุ่มจับจองพื้นที่ค้าขายแล้วฉวยโอกาสได้ประโยชน์ เงินทองจากการค้าขาย แล้วผลักความรับผิดชอบให้ กทม.

ดังนั้น กทม.ไม่ควรปล่อยให้ผู้ค้าทำตามใจตัวเอง อยากออกเมื่อใดก็ได้ เนื่องจาก กทม.มีความจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อเตรียมส่งมอบพื้นที่ในสภาพเรียบร้อยให้กับมูลนิธิฯ แล้วสร้างเป็นสวนสาธารณะอันมีค่าให้กับคนกรุงเทพฯ ได้ใช้อย่างเท่าเทียม