หอยสังข์พันล้าน

โดย...สลาตัน

โครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ขึ้นตรงสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2550 มีกำหนดก่อสร้างเสร็จในปี 2554 ในวงเงินงบประมาณกว่า 835 ล้านบาท

แต่ปัญหามีอยู่ว่าตอนนี้มันปี 2561 แล้ว โอแม่เจ้า!! ปรากฏว่าโครงการสร้างศูนย์ฯ ยังไม่สำเร็จสักที แถมยังพบว่ามีการใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นแลนด์มาร์คซากความชอกช้ำเสียหาย ที่ทำลายความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา จาก "หนังม้วนสั้นกลายเป็นหนังม้วนยาว" ที่ไม่รู้ว่าจะจบลงวันใด

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ จ.สงขลา ถูกมองถึงประเด็นความล่าช้าในการก่อสร้างและงบประมาณที่ใช้ไปจนนำไปสู่ปัญหาการทุจริตหรือไม่?? ใครจะยอมรับผิดชอบการสร้างอควาเรียม "หอยสังข์พันล้าน" นี้ให้เสร็จสมบูรณ์เปิดทำการได้จริง จึงได้แต่หวังให้เรื่องนี้ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรีบเข้ามาแก้ไข ไม่งั้น "ขายขี้หน้านัก" อย่าทิ้งร่องรอยความชุ่ยความมักง่ายให้สังคมต้องเห็นแล้วนำมาประจานกันเลย

ตอนนี้เท่าที่ทราบเรื่อง จากหน่วยงานที่ทำงานเรื่องปราบปรามการทุจริตในประเทศไทยก็พบว่า เริ่มขยับขาเดินหน้ากันแล้ว อย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 9 ทาง ป.ป.ท.อยู่ระหว่างทำหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอข้อมูลการก่อสร้างโครงการศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นแนวทางการตรวจสอบ

หารู้หรือไม่ว่า! ก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.เคยทำหนังสือถึงกรมอาชีวศึกษา เจ้าของโครงการ เพื่อขอข้อมูล แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ แบบนี้มีอะไรในกอไผ่ไหม? ทำไมไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อช่วยกันรักษา ผลประโยชน์ชาติ จะเรียกว่าเตะถ่วงซื้อเวลากันไปวันๆ หรือ แบบนี้ไม่ควรยิ่ง กินภาษีประชาชนแล้วยังมาทำลายชาติให้ยับเยินเสียหายอีก

เช่นเดียวกับภาคประชาชนที่ไม่ยอมนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้ กลุ่มเครือข่ายผู้ปกครอง วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ พร้อมชมรมคนทำความดีจังหวัดสงขลา ยื่นหนังถือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายดลเดช พัฒนรัฐ ผวจ.สงขลา ให้ตั้งคณะกรรมการสอบทุจริตโครงการนี้ หลังตั้งข้อสังเกตอาจมีการทุจริต ขอรับรองงานนี้ไม่ต้องตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการทุจริต เพราะมีแน่นอน...

เนื่องจากก่อนก่อสร้างต้องมีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างด้วยงบประมาณที่กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือความล่าช้าที่เกิดขึ้นและก่อสร้างไม่เสร็จล่วงเลยมานานกว่า 10 ปี ผู้ประมูลงานหรือหน่วยงาน สอศ.ต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พร้อมกับชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบอย่างละเอียดด้วย เนื่องจากมูลค่าความเสียหายไม่ใช่ร้อยสองร้อยบาทเท่านั้น แต่ดันล่อไปถึงพันล้านโน่น

ตอนนี้ทราบว่า สอศ.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยมีนายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการ สอศ. เป็นประธาน และให้เร่งดำเนินการสรุปผลโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสังคม และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการก่อสร้างล่าช้า

"อควาเรียมหอยสังข์" อาจต้องอาศัยหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยตรวจสอบความจริงด้วย มองว่าจะมีการทุจริตที่สลับซับซ้อน การตรวจสอบอาจยุ่งยาก เพราะอาจมีข้าราชการระดับสูงล่มหัวจมทายกันฉ้อโกงเงิน...สวัสดี