ภาคการเงินกัมพูชา กับการพัฒนาที่ยั่งยืน
จากรายงานวิจัย ITD ที่อยู่ระหว่างศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์บทบาทภาคการเงินเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียน”
โดย...สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) www.itd.or.th
จากรายงานวิจัย ITD ที่อยู่ระหว่างศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์บทบาทภาคการเงินเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียน” โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ได้ระบุว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อประชากรต่ำสุดในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) และในกลุ่มอาเซียน
อย่างไรก็ตาม กัมพูชาก็มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 ในปี 2558 (ร้อยละ 7) รองจากเมียนมา (ร้อยละ 7.2) ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้พยายามที่จะรักษาอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในระดับนี้ไว้
โครงสร้างภาคการเงินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของกัมพูชา ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจเป็นแหล่งเงินที่สำคัญมากที่สุดโดยสถาบันการเงินจุลภาค (ไมโครไฟแนนซ์) มีบทบาทโดดเด่นโดยให้สินเชื่อแก่ผู้มีรายได้น้อยในชนบท
แหล่งเงินที่สำคัญรองลงมาในการพัฒนาที่ยั่งยืนของกัมพูชา ได้แก่ งบประมาณรัฐ ตามด้วยเงินลงทุนจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) เงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (OfficialDevelopment Assistance : ODA) ตามลำดับ ขณะที่ตลาดทุนในส่วนของตลาดหลักทรัพย์มีบทบาทน้อยมาก เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชาเพิ่งมีการซื้อขายเมื่อปี 2555
ประเด็นท้าทายของบทบาทภาคการเงินต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของกัมพูชา สามารถสรุปได้ดังนี้
1) ต้องจัดลำดับความสำคัญและต้องคำนึงถึงความสมดุลของการพัฒนา เนื่องจากกัมพูชามีความต้องการเงินทุนเพื่อจัดสรรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกๆ ด้าน แต่การพัฒนาดังกล่าวของกัมพูชาที่ผ่านมายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศสมาชิกอาเซียน
2) เพิ่มศักยภาพในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมโดยปรับปรุงการจัดเก็บภาษี นำธุรกิจนอกระบบซึ่งมีจำนวนมากให้เข้ามาอยู่ในระบบเพื่อเสียภาษีและจัดเก็บภาษีใหม่เพิ่มเติมเช่น ภาษีที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
3) การเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) พร้อมกับมาตรการปกป้องผู้ใช้บริการและให้ความรู้ทางการเงิน โดยจัดระเบียบสถาบันการเงินจุลภาค (ไมโครไฟแนนซ์) และส่งเสริมเทคโนโลยีเกี่ยวกับทางการเงิน (ฟินเทค) เพื่อให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น
4) ส่งเสริมการรักษาสมดุลระหว่างการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และการแสวงหาผลกำไรของภาคเอกชน
5) กัมพูชาได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) น้อยลง ดังนั้นต้องมีการวางแผนการใช้ประโยชน์จากเงินดังกล่าวที่เหลือให้มากที่สุด และต้องสร้างสมรรถภาพในด้านของการจัดเตรียมข้อเสนอสำหรับการใช้เงินจากกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด


