posttoday

บทเรียนทุเรียนทองคำ

02 พฤษภาคม 2560

ราชาผลไม้ออกสู่ตลาดแล้วคือทุเรียน แต่เมื่อเห็นราคาแล้วหลายคนคงต้องหดมือไปไม่มากก็น้อย

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ราชาผลไม้ออกสู่ตลาดแล้วคือทุเรียน แต่เมื่อเห็นราคาแล้วหลายคนคงต้องหดมือไปไม่มากก็น้อย

เพราะราคาทุเรียนปรับตัวขึ้นจากปีก่อน กิโลกรัมละเกินร้อยขึ้นไป จะเป็นร้อยเท่าใดขึ้นกับคุณภาพเป็นสำคัญ

และแม้ราคาจะแพงเช่นนี้ แต่มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย

สาเหตุเนื่องจากมีผู้รับเหมารายสำคัญก็คือจีนซื้อไม่อั้น ทุกระดับราคากวาดไม่เหลือ

ทั้งหมดทำให้ต้นทุเรียน กลายเป็นทองคำในพริบตา

ราคาทุเรียนที่ถิ่นปลูก อย่างจันทบุรี เอาเฉพาะแค่จุดรับซื้อในช่วงเดือน เม.ย.ก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 80-90 บาทเข้าไปด้วย

พอมาถึงตลาดค้าส่ง อาทิ ตลาดสี่มุมเมือง ราคาปรับขึ้นไปตามระยะทาง และลำดับชั้นการเปลี่ยนมือของพ่อค้า

ลองย้อนไปดูราคาทุเรียนหมอนทองเกรด เอ ช่วงเดือน ม.ค. ขายส่งเฉลี่ยที่ 123 บาท/กิโลกรัม พอถึงเดือน เม.ย.ก็ขึ้นไปเฉลี่ยที่ 142 บาท เรียกได้ว่า ปรับตัวขึ้นมาเรื่อย

ทุเรียนจึงกลายเป็นพืชแห่งอนาคต มีการปลูก ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

ส่วนหนึ่งเป็นการปลูกทดแทนต้นทุเรียนที่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง ต้นทุเรียนแก่ และการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตามแนวโน้มของราคา เนื่องจากมีความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ตลาดส่งออกทุเรียนยังมีความหลากหลาย ทั้งในรูปแบบผลสด ทุเรียนแช่เยือกแข็ง โดยเฉพาะทุเรียนแช่เยือกแข็งมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในช่วงปี 2556-2558 มีการส่งออกทุเรียนแช่เยือกแข็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปี 2558 ที่ผ่านมามีการส่งออกทุเรียนแช่เยือกแข็งประมาณ 22,180 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,944 ล้านบาท โดยเฉพาะการแยกส่งเฉพาะเนื้อทุเรียนแช่เยือกแข็งมีประมาณ 1,588 ตัน เป็นมูลค่า 105.08 ล้านบาท

ประเทศนำเข้าทุเรียนแช่เยือกแข็งที่สำคัญของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย ไต้หวัน เกาหลี และฮ่องกง

นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังไทย ก็กลายเป็นตลาดขายทุเรียนขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการกว้านซื้อทุเรียนรองรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้

ชาวสวนทุเรียนต่างก็หน้าผ่องใส ขายผลผลิตได้ราคา ผิดกับเมื่ออดีตที่เคยมีข่าวทุเรียนล้นตลาด ต้องตัดทิ้ง เลหลังขายราคาถูก

ทุเรียน 1 ต้น จึงมีราคาแพงกว่าทองคำ

ปรากฏการณ์ยุคทุเรียนทอง จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า อนาคตของบ้านเมืองเรา ก็คือการเกษตร ต้องกลับไปรากฐานเดิมลงสู่ดิน

ยิ่งโลกพัฒนาเท่าใด และจำนวนประชากรของโลกที่เพิ่มขึ้นทุกนาที นั่นคือโอกาสที่แท้จริงของประเทศ

จะไป 4.0 จะไปสร้างอะไรก็แล้วแต่ ทว่าเนื้อแท้ที่จะรองรับความผันผวน รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารพัดรูปแบบ จะไปสู่ยุคหุ่นยนต์ ยุคปัญญาประดิษฐ์ ภาคการเกษตรคือความแข็งแกร่ง

นี่แหละ รากฐานและทรัพย์สินที่แท้ของประเทศ

ใครอยู่กับดิน รอดแน่นอน 

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ