ทรัมป์คืนชีพหนังสือพิมพ์

โดย...นันทิยา วรเพชรายุทธ

อุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์ที่ว่ากันว่าเป็น ซันเซต อินดัสทรี ในยุคที่โลกมุ่งสู่สื่อดิจิทัลนั้น อาจจะกำลังได้พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยกอบกู้ชีวิตใหม่ แม้พระเอกคนนั้นจะปากจัดชนิดหาคนวัดด้วยยาก และที่จริงแล้วอาจต้องเรียกว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับสื่อกระแสหลักกันมาก่อนก็ว่าได้

ใครจะคิดว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เปิดศึกกับสื่อในบ้านตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งด้วยการตำหนิสื่อกระแสหลัก และชูแนวทางการให้ข้อมูลทางเลือกใหม่ (Alternative Facts) จะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวที่ช่วยให้ยอดขายของบรรดาหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ฝั่งตะวันตก ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

รายงานของรอยเตอร์ส ระบุว่า ยอดสมาชิกออนไลน์ของ 3 หนังสือพิมพ์หัวใหญ่ ได้แก่ นิวยอร์ก ไทมส์ ไฟแนนเชียลไทมส์ และวอลสตรีทเจอร์นัล ต่างปรับตัวขึ้นอย่างพรวดพราดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่สูสีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

ยอดสมาชิกออนไลน์ของนิวยอร์กไทมส์ เมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นชนิดทุบสถิติใหม่ถึง 2.76 แสนราย พร้อมกับยอดโฆษณาออนไลน์ในไตรมาสปัจจุบันที่ปรับตัวขึ้น 10-15% โดยบริษัทคาดว่าจะมียอดสมาชิกที่รับหนังสือพิมพ์ดิจิทัลเพิ่มอีกถึงราว 2 แสนราย ในไตรมาสแรกนี้

ส่วนวอลสตรีทเจอร์นัลมียอดสมาชิกเพิ่มขึ้น 1.13 แสนราย หรือเพิ่มขึ้น 12% และระบุด้วยว่าสมาชิกใหม่ในเดือน ม.ค.นี้ มีมากกว่ายอดทั้งไตรมาสที่แล้วอีก เพียงแต่ไม่เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน ด้าน ยูเอสเอ ทูเดย์ หนังสือพิมพ์ยอดนิยมรายวันในสหรัฐ มียอดเพิ่มขึ้น 26% อยู่ที่ 1.82 แสนราย

ขณะที่ ไฟแนนเชียลไทมส์ สื่อใหญ่ฝั่งอังกฤษที่ถูกนิกเกอิเข้าเทกโอเวอร์ไปเมื่อปี 2015 มีตัวเลขสมาชิกดิจิทัลเพิ่มขึ้น 6% พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 6.46 แสนราย

ที่จริงแล้ว การจะคว้าสมาชิกใหม่ให้มาอ่านหนังสือพิมพ์เพิ่มนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะได้กระแสทรัมป์มาช่วยก็ตาม เพราะทุกวันนี้ คนอ่านมีทางเลือกมากมายตามหน้าเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้นักข่าวมืออาชีพรายงาน อีกทั้งรัฐบาลทรัมป์เองก็เปิดศึกหนักกับสื่อกระแสหลัก ถึงขั้นที่เคยโจมตีข่าวของนิวยอร์กไทมส์มาแล้วว่าเป็น “ข่าวปลอม”

ทว่าวิกฤตกระแสข่าวปลอมที่กำลังสะพัดไปทั่วโลกนี่เอง ก็เป็นโอกาสไปในตัวให้สื่อมืออาชีพได้พิสูจน์ฝีมือและคุณค่าในผลงานของตนเองว่า เป็นข่าวที่จริง ไม่อคติ และมีคุณค่าพอที่คนอ่านจะยอมเสียเงินค่าสมาชิก มากกว่าข่าวฟรีทั่วไปตามเว็บไซต์ ซึ่งหลังจากที่หนังสือพิมพ์เหล่านี้เร่งสร้างความเข้าใจกับคนอ่านด้วยการลงแอดของตัวเองเพื่อประกาศความความเป็นข่าวจริง เป็นกลาง และเป็นมืออาชีพแล้ว ผลงานที่ทำมาตลอดก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเบื้องต้นแล้วว่าข่าวดีก็ยังมีคนพร้อมจะเสียเงินซื้ออ่านเช่นกัน