นัยแห่งคำสัตย์
ปรากฏการณ์ รวมพลังแห่งความภักดี ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าพูดถึงอย่างยิ่ง
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ปรากฏการณ์ รวมพลังแห่งความภักดี ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าพูดถึงอย่างยิ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ร่วมรวมพลังแห่งความภักดี พร้อมๆ กับหน่วยราชการทั่วประเทศ
ประเด็นแรกที่น่าสนใจก็คือ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คงระลึกกันได้ว่า ปกติแล้วงานที่เกี่ยวเนื่องกับวันพระราชสมภพ จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค. แต่ในปีนี้จัดเร็วขึ้นกว่าเดิม
นั่นคือสิ่งที่แสดงถึงความตั้งใจของงานนี้
ประการถัดมา ก็คือการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ปกติการถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย และมักกระทำต่อหน้าพระพักตร์ แตกต่างจากการปฏิญาณตน ที่เป็นการกระทำต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
แต่ครั้งนี้ กระทำต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยยกระดับขึ้นมาเป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตน
นั่นคือสิ่งที่แสดงถึงความหมายของงานนี้
ประการสุดท้าย เป็นเนื้อหาในคำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ ที่อาจแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลัก
ส่วนแรก คือประโยคแรกของคำสัตย์ปฏิญาณ โดยความสำคัญอยู่ที่การตั้งสัตยาธิษฐานว่า
ข้าพระพุทธเจ้าจะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
นั่นคือการลั่นวาจาที่กึกก้องไปทั่วประเทศ
ส่วนที่ 2 คือการตั้งสัตยาธิษฐาน ถึงหลักการปฏิบัติตัวประกอบด้วย
จะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย
รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน
ร่วมกันปฏิรูปประเทศและสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย
จะเป็นคนดี มีคุณธรรม นำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสันติสุข
จะรู้รักสามัคคีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป
จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ
และสุดท้ายคือส่วนที่ 3 ได้แก่ แนวทางในการประพฤติตน ได้แก่
จะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ
เชิญพระราชคุณธรรมจรรยามาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ สืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุข ความเจริญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของราชอาณาจักรไทย
นั่นคือความสำคัญ ความหมาย นัยของงานนี้ จากเนื้อหา จากคำปฏิญาณ จากวาจาสัตย์
ที่ตั้งสัตยาธิษฐาน และกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น


