พายุดูเตอร์เต
ผู้นำโลกในยุคนี้ ต้องยกให้ ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ว่าร้อนสุดๆ
โดย... ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ผู้นำโลกในยุคนี้ ต้องยกให้ ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ว่าร้อนสุดๆ
ดูเตอร์เตขึ้นสู่ผู้นำฟิลิปปินส์แบบถึงลูกถึงคน ไม่ว่าจะเป็นคำพูด วิธีปฏิบัติ โดยเฉพาะการทำสงครามกวาดล้างยาเสพติด ที่มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,000 คน
ปรากฏว่าบรรดาชาติตะวันตกและสหรัฐอเมริกาต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของดูเตอร์เต เรียกว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในคงไม่ผิดนัก
สิ่งที่ตามมาก็คือการที่ดูเตอร์เต ตอบโต้ด้วยคำพูดที่เผ็ดร้อน ชนิดที่ฟังแล้วแทบตกเก้าอี้
ท่าทีแข็งกร้าวของดูเตอร์เต แปลความได้ง่ายๆ ก็คือกูไม่กลัวมึง
ดูเตอร์เต ประกาศว่าในชั่วชีวิตเคยแต่คุกเข่าให้กับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ และมหากษัตริย์ของไทย เท่านั้น แต่จะไม่ทำเช่นนั้นกับพวกอเมริกัน
เมื่อแตกหักกับอเมริกา ดูเตอร์เตก็บินไปปักกิ่ง ประกาศสานสัมพันธ์ครั้งใหม่กับจีนเสียอย่างนั้น เป็นการตบหน้ามหาอำนาจอย่างพญาอินทรีอีกฉาดใหญ่
อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์เคยมีปัญหากับจีน โดยฟิลิปปินส์ฟ้องต่อศาลโลกเมื่อต้นปี 2558 ว่าจีนอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ 3.5 ล้านตารางกิโลเมตร ในแถบทะเลจีนใต้โดยไม่ชอบ
ปรากฏว่าศาลโลกตัดสินว่าจีนละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์ รวมถึงอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ในการปลูกสร้างต่างๆ ด้วย โดยจีนไม่มีสิทธิเหนือทรัพยากรบริเวณน่านน้ำพิพาท และฟิลิปปินส์สามารถทำประมงในบริเวณดังกล่าว
แต่เมื่อมีปัญหากับอเมริกา ดูเตอร์เตก็หันไปหาจีนพับคดีความที่คาใจเอาไว้ก่อน
นั่นคือความแรงราวพายุของดูเตอร์เต
เมื่อดูเตอร์เต แหย่หนวดเสือเช่นนี้ ก็ต้องเจอของแข็ง โดยดูเตอร์เตระบุว่ากำลังโดนสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) วางแผนลอบสังหาร
เดลฟิน ลอเรนซานา รมว.กระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ พูดทำนองดูเตอร์เตเคยกล่าวหลายครั้งว่า อาจมีชีวิตอยู่ไม่ถึงจนครบวาระของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คือในปี 2565 และย้ำเตือนให้คณะรัฐมนตรีทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังจนครบวาระ
อนาคตของผู้นำฟิลิปปินส์จึงน่าติดตามอย่างยิ่ง
เพราะผลประโยชน์ของอเมริกามีอย่างมหาศาลในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะก่อนที่ดูเตอร์เตจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี สหรัฐ เพิ่งทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือด้านกลาโหมกับฟิลิปปินส์เป็นเวลา 10 ปี
เนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าวก็คือ ฟิลิปปินส์จะให้สหรัฐอเมริกาใช้ฐานทัพ 8 แห่ง เพื่อยุทธศาสตร์ทางทหาร โดยเฉพาะการถ่วงดุลอำนาจของจีน ตามนโยบายปักหมุดเอเชียของประธานาธิบ ดีบารัก โอบามา
ฐานทัพแห่งนี้ คือหัวใจที่อเมริกาจะใช้ปฏิบัติการในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะในปมพิพาทพื้นที่บริเวณทะเลจีนใต้
บรรดาชาติมหาอำนาจจึงมักจะเอาเรื่องประชาธิปไตย เอาเรื่องสิทธิมนุษยชนมาบังหน้า หรือสร้างเหตุขึ้นมาไม่เพียงแต่ฟิลิปปินส์ แต่เกิดขึ้นในแทบทุกภูมิภาคของโลก
ใครมาขวางสุดท้ายต้องโดนจัดการ ไม่ก็โดนก่อกวนไปเรื่อยๆ เหมือนกับที่เราโดนอยู่ตลอด
เพราะสุดท้ายพวกนี้ ผลประโยชน์ก็อยู่เหนืออื่นใด
ไม่งั้นจะมีหนัง The Ugly American-อเมริกันอันตรายหรือ