เอกสารปานามา : สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสวรรค์ของการเลี่ยงภาษี
โดย ธีระ ภู่ตระกูล CFP® นายก สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
โดย ธีระ ภู่ตระกูล CFP® นายก สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
คุณเคยได้ยินชื่อของ Mossack Fonseca หรือไม่ครับ ผมคิดว่าคำตอบของคุณคงจะเป็น ไม่เคยได้ยิน นอกจากที่คุณอาจเป็นลูกค้าของสำนักงานกฎหมายที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และมีที่ตั้งอยู่ที่ประเทศปานามา ซึ่งข้อมูลจากฐานข้อมูลของ Mossack Fonseca ได้รั่วไหลไปยังหนังสือพิมพ์เยอรมัน Suddeutsche Zeitung และ International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ)
เอกสารปานามา หรือที่เรียกในสื่อทั่วโลกว่า Panama Papers เป็นการรั่วไหลของข้อมูลจาก 11.5 ล้านแฟ้ม ซึ่งเป็นลูกความของสำนักงานกฎหมาย Mossack Fonseca เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบในการรั่วไหลครั้งนี้ รวมถึง ผู้นำประเทศ 12 คน นักการเมือง 143 คน สมาชิกสภาสูงของอังกฤษ 6 คน ดาราฮอลิวู๊ด ผู้นำระดับสูงองค์กร Fifa ผู้นำจากจีน และคนมีชื่อเสียงของไทยหลายคน
การเปิดเผยดังกล่าว ก่อให้เกิดความวุ่นวายในโลกเป็นอย่างมาก และได้ทำให้นายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์ต้องตัดสินใจลาออก และอาจต้องทำให้นายกรัฐมนตรีของอังกฤษต้องตัดสินใจเช่นเดียวกันก็ได้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ การเก็บเงียบของสื่อไทย และหน่วยงานต่อต้านการทุจริต เมื่อมองไปว่า อาจมีนักการเมืองไทย ทั้งปัจจุบันและในอดีต ที่อาจเกี่ยวพันธ์กันในเรื่องนี้ ดูเหมือนกับว่า หน่วยงานป้องปรามของไทยอาจต้องทำตัวเงียบมากในเรื่องนี้
การช่วยให้มหาเศรษฐีหาช่องโหว่ในเรื่องของภาษีนอกประเทศ เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหลักการเหล่านี้ ไม่ได้ใช้โดยคนที่อยากจะฟอกเงิน สนับสนุนผู้ก่อการร้าย หรือทำธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่ควรรู้คือ การจัดโครงสร้างภาษีในต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างถูกกฎหมาย และมีเหตุผลที่ถูกต้องในการทำได้หลายประการ อาทิ ทำสำหรับการวางแผนมรดก เป็นต้น แต่คุณจะต้องเข้าใจถึงกฎระเบียบก่อนที่จะเข้าไปร่วม
ความสุขุมเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องมี ในการย้ายหรือถือหลักทรัพย์ต่างๆ นอกประเทศ เพราะคุณไม่ต้องการให้เจ้าหนี้ คู่แข่ง สรรพากร ภริยาหรืออดีตภริยาของคุณ รู้ถึงการกระทำดังกล่าว และคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้โดยการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ หรือที่เรียกกันว่า Shell Company ซึ่งก็แปลว่า เป็นบริษัทที่ว่างเปล่าเหมือนเปลือกหอย บริษัทนี้ ไม่มีหน้าที่อื่นนอกเหนือจากการบริหารเงินและหลักทรัพย์และปิดบังชื่อเจ้าของตัวจริงของเงินและหลักทรัพย์ดังกล่าว
เมื่อคุณจัดตั้ง Shell Company เรียบร้อยแล้ว คุณไม่ต้องการให้บริษัทนี้มีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ หรือที่อื่นที่หน่วยงานของรัฐสามารถสืบค้นถึงเจ้าของตัวจริงอย่างง่ายดาย คุณต้องมีศูนย์การเงินต่างประเทศ (Offshore Financial Center) หรือที่เรียกกันว่า ที่หลบซ้อนภาษี ศูนย์เหล่านี้มักจะตั้งอยู่ในประเทศเล็กๆ อาทิ British Virgin Islands หมู่เกาบาฮามาส และปานามา ประเทศเหล่านี้ มีกฎหมายที่ปกป้องข้อมูลทางการเงินและการธนาคารให้เป็นความลับ และมักจะมีอัตราภาษีที่ต่ำ หรืออาจไม่มีภาษีที่จะเรียกเก็บจากการทำธุรกรรมทางการเงิน
แต่ทำไมถึงเป็นปานามา ประวัติของปานามา ในฐานะเป็นสวรรค์ของการหลีกเลี่ยงภาษี เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1919 เมื่อประเทศนี้เริ่มที่จะจดทะเบียนเรือสัญชาติอื่น เพื่อช่วยให้บริษัทน้ำมันของสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงภาษีและข้อบังคับต่างๆ ตั้งแต่นั้นมา ปานามาได้ยกเลิกสนธิสัญญาภาษีกับต่างประเทศ ทำให้เกิดความคุ้มครองให้กับนักลงทุนต่างชาติได้อีกชั้น และปานามาไม่มีกฎควบคุมการนำเข้าหรือส่งออกเงิน จึงไม่มีการจำกัดจำนวนเงิน หรือเอกสารที่แสดงเห็นถึงการนำเข้าและส่งออกเงินดังกล่าว
ที่น่าเสียดายคือ กฎหมายดังกล่าวเป็นที่ดึงดูดของบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ ที่มุ่งเน้นใช้สถานที่นี้ เป็นที่หลบซ่อนของสิ่งที่พวกเขาขโมยมา กล่าวสั้นๆ คือ ไม่มีสวรรค์ของการหลีกเลี่ยงภาษีที่ดี คนแห่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพราะเชื่อมั่นในเรื่องของความลับเหนืออื่นใด
ความจริงที่น่าเศร้าที่ทำให้ผมนึกถึงนวนิยายของ John le Carre ชื่อ The Tailor of Panama ซึ่งได้เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) เรื่องนี้จะเกี่ยวกับ Harry Pendel ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ร้าย และผันตัวมาเป็นช่างตัดเสื้อให้กับมหาเศรษฐิและผู้มีอำนาจในปานามา ซึ่งรวมถึงผู้ร้ายและบุคคลไม่พึงประสงค์อื่นๆ
เหมือนกับชีวิตจริง หากวิธีหลีกเลี่ยงภาษีและกฎหมายยังมีความต้องการอยู่ นายธนาคารและนักกฎหมาย ซึ่งบางคนก็ไม่สนใจหลักจริยธรรม ก็ยังจะมีงานรับใช้บุคคลเหล่านี้ เพราะคิดไป หน้าที่จริงๆ ของช่างตัดเสื้อคืออะไร หน้าที่ของเขาคือ ทำให้คนสามารถหลบซ่อนตัวจริงของพวกเขาได้


