ปราบให้หมด

โดย...พะนะท่าน  [email protected]

จะเอาจริงกันหรือเปล่ากับมาตรการปราบผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศของบิ๊กตู่ เห็นประกาศไว้ร่วมครึ่งปี ตอนนี้เริ่มคิกออฟให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นบัญชีดำ “มาเฟีย” ส่งมาที่ส่วนกลาง

ถ้า คสช.ทำได้จริง จับกุมส่งฟ้องดำเนินคดี ก็ต้องสรรเสริญเยินยอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เขาล่ะ

มาเฟียเทาๆ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายเหล่านี้ คือ อาชญากร บ่อนทำลายเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มก๊วนนักการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น ที่เลี้ยงไว้ คอยสนับสนุนจุนเจือ เป้าหมายสูงสุดก็คือ โกงกินทุจริต รีดไถ ตบส่วยทุกประเภท

จังหวะที่นักการเมืองเว้นวรรค ถ้า คสช.ตั้งใจจัดการก็ควรเร่งซะ แต่แหมมันช้าเหลือเกิน แถมใครจะเชื่อว่าจะเอากันถึงที่สุดจริงๆ เพราะสุดท้ายแล้วก็วกกลับมาที่ทหารอีกว่า จะกล้าปราบพวกเดียวกันหรือไม่

เหล่านักเลือกตั้งเพียงลำพัง ไม่สามารถสยายอาณาจักรมาเฟียตัวเอง ถ้าไม่ได้อำนาจเครือข่ายจากคนมีสี โดยเฉพาะบิ๊กทหาร ตำรวจ คอยสนับสนุนค้ำจุน

ขนาดคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ผู้ต้องหาทำเป็นขบวนการ 90 จำเลยที่ถูกฟ้อง ไม่เฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น บิ๊กทหารระดับนายพลยังโดนสอยไปหนึ่ง พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. นอนอยู่ในคุกตอนนี้ ยังมีอีก 4 นายทหารสังกัด กอ.รมน. ที่ศาลนาทวีออกหมายจับ

คดีอุทยานราชภักดิ์ ฉาวข้ามปี มี 2 นายทหารใกล้ชิดบิ๊ก คสช.ถูกออกหมายจับข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับประโยชน์ร่วมขบวนการหมอหยอง ก็มี “ผู้การโต” พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ อดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และ “เสธ.โจ้” พ.อ.คชาชาต บุญดี นายทหารฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3

ทหารถึงไม่มีอำนาจตรงเหมือนตำรวจ แต่ก็มีอิทธิพลสูง โดยเฉพาะพวกนอกแถวล้วนเกี่ยวพันกับขบวนการผิดกฎหมายมาหลายยุคหลายสมัย

รายชื่อผู้มีอิทธิพลรอบนี้ที่อ้างว่ามีถึง 6,000 ราย ถ้าทำอย่างตรงไปตรงมา จึงไม่น่ามีเฉพาะสีกากีฝ่ายเดียวอย่างที่ออกข่าวครึกโครมว่ามีตำรวจถูกโยงร่วม 200 คน

แต่แหมวันก่อนฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วขัดหู “บิ๊กป้อม” บอกว่า ได้นำทหารและผู้มีอิทธิพลบางส่วนไปลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อให้คำมั่นอย่าทำผิดอีก อ้างว่าคนกลุ่มนี้หลักฐานไม่ถึงขั้นเอาผิดได้ เลยต้องจับเซ็นเอ็มโอยู มันจะได้หรือ ถ้าพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ก็น่าจะขยายผลสอบสวน ไม่ก็ออกคำสั่ง คสช.มาตรา 44 จับย้ายเข้ากรุไว้ก่อน เหมือนที่ทำกับนักการเมืองท้องถิ่น บิ๊กข้าราชการนับร้อย

อย่าลืม นี่ระดับผู้มีอิทธิพล ไม่ก็พัวพัน แต่ก็เข้าข่ายความผิดตั้ง 16 ฐานมากมาย อาทิ นายทุนปล่อยกู้ ฮั้วประมูล เรียกส่วยวินมอเตอร์ไซค์ ขนสินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน เปิดบ่อน หวยใต้ดิน บังคับค้าประเวณี โสเภณีเด็ก ลักลอบนำคนเข้าเมือง ต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว มือปืนรับจ้าง ค้าอาวุธสงคราม รุกที่สาธารณะ เรียกค่าคุ้มครอง เกี่ยวข้องยาเสพติด

ขอย้ำต้องเอาจริง อย่าปาหี่ เป็นไฟไหม้ฟางตอนสุดท้าย เพราะหลายคนกำลังสงสัยว่าเป็นแผนเคาะกะลา จัดระเบียบหัวคะแนนฝ่ายตรงข้ามในช่วงใกล้ทำประชามติร่าง รธน.ที่ประชาชนต้องเข้าคูหากลางปีนี้หรือไม่

เพราะ คสช.หวังสูงไม่ใช่แค่ให้ร่าง รธน.ต้องผ่านประชามติ แต่ “คะแนนเห็นชอบ” ต้องชนะให้มากที่สุด