ถอดไม่ถอด

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

ซีรี่ส์เรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูไปดูมา ยากคาดเดาเสียเหลือเกินตอนจบจะเป็นเช่นไร

อย่างการเพิกถอนพาสปอร์ตคุณทักษิณ ถึงแม้กระทรวงการต่างประเทศแถลงว่าเพิกถอนพาสปอร์ตทุกเล่มเป็นที่เรียบร้อย

แต่คุณสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ บอกว่า ถ้าเขากลับมาเป็นรัฐบาล จะคืนพาสปอร์ตให้คุณทักษิณทุกเล่มเช่นกัน  

แม้จะตอกฝาโลงแต่ก็มีคนงัดตะปูพาร่างออกมาปลุกเสกชุบชีวิตใหม่ได้ ไม่ต่างกับกรณีการถอดยศหรอกครับ

สมมติ ผบ.ตร.ส่งเรื่องถอดยศไปให้รัฐบาล วันดีคืนดีเดี๋ยวก็จะมีนักการเมืองศรีธนญชัย พลิกแพลงข้อกฎหมายหาทางคืนยศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกก็ได้ ไม่จบไม่สิ้นกันอยู่อย่างนี้

นี่ยังไม่ถึงกระบวนการสุดท้ายของการถอดยศ ยังเกิดรายการยึกยัก ฉายหนังซ้ำวนไปวนมาผ่านเก้าอี้ ผบ.ตร.ไปแล้ว 8 นาย

ยุคหนึ่งดองเรื่องไว้บ้าง พยายามทำให้ลืมๆ กันไปบ้าง อีกยุคหนึ่งหาวิธีฟอกขาวความผิดให้คุณทักษิณได้มียศตำรวจติดตัวต่อไปซะเลยบ้าง

มาถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยุคปัจจุบัน ชาวบ้านร้านตลาดที่ได้ยินเสียงพล่ามรัฐบาล คสช.ให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติ ต่างเฝ้ามองดูอยู่เหมือนกัน ผบ.ตร.รายนี้จะเดินตามรอยคนก่อนๆ หรือจะเป็นผู้จบเรื่องนี้อย่างงดงาม

หะแรก ทำทีกระวีกระวาด เมื่อกรรมการถอดยศของ สตช.ลงมติเอกฉันท์ให้ถอดยศโดยสรุปรายงานเสนอ แต่ พล.ต.อ.สมยศ อ้างว่ากรรมการลงนามไม่ครบให้กลับไปลงนามก่อน

ครั้นกรรมการลงนามครบส่งกลับมาใหม่ คราวนี้ ผบ.ตร.บอกว่า ขอให้กรรมการตรวจดูรายละเอียดให้ถูกต้องและส่งกลับมาภายในวันที่ 11 มิ.ย.

ล่วงเลยวันที่ 11 มิ.ย. พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงชนิดอึ้งทึ้งกันไปเลย “เห็นรายงานแล้ว แต่จะขอดูรายละเอียดด้วยความรอบคอบ อีกทั้งต้องส่งเรื่องไปที่สำนักงานกำลังพล (สกพ.)”

“ถามว่าจะใช้เวลานานเท่าใดนั้น อยากบอกว่าข้อบังคับไม่ได้ระบุจะต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใด เพราะฉะนั้นผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.

สรุปเรื่องถอดยศอยู่ในมือ พล.ต.อ.สมยศ แต่จะเริ่มพิธีกรรมส่งเรื่องเด้งไปเด้งมาอีกรอบ ยิ่งบอกว่าไม่กำหนดเวลาคงยาวไปถึงเกษียณอายุราชการกระทั่ง ผบ.ตร.คนใหม่รับเรื่องต่อก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกหรือไม่

น่าคิดนะครับ บรรดาอดีตนายทหาร ตำรวจซึ่งกระทำความผิดจนได้รับการถอดยศ มีรายใดบ้างต้องส่งเรื่องไปมายาวนานขนาดนี้ ฉะนั้นข้อสงสัยเล่นปาหี่-เลือกปฏิบัติจึงดังขึ้นมาไงครับ 

สิ่งที่รัฐบาล คสช.เน้นย้ำกฎหมายต้องเป็นกฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ ที่แท้ไม่มีอยู่จริง โดยเฉพาะถ้าอดีตนายตำรวจต้องโทษนั้น ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”