ปลดล็อก
พลันที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.รธน.) สรุปหลักการโครงสร้างอำนาจต่างๆ
โดย...ธรรมสิตย์ ผลแก้ว
พลันที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.รธน.) สรุปหลักการโครงสร้างอำนาจต่างๆ เพื่อเตรียมนำไปสู่การเขียนร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย
เอาแค่ประเด็นที่มานายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นที่ชัดเจนว่า กมธ.รธน.กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเลือกบุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้
บรรดาผู้เล่นทางการเมืองตีโพยตีพายทันทีว่า กมธ.รธน.มีเจตนาซ่อนเร้น ต้องการให้รัฐบาลทหารสืบทอดอำนาจเหมือนปี 2535 ซึ่งจะนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรง
ขณะที่ กมธ.รธน.พยายามอรรถาธิบายให้คำนึงถึงหลักความเป็นจริง เมื่อ สส.ได้รับการคัดเลือกเข้าสภามีเสียงข้างมาก มีหรือจะไม่เลือกพวกตนหรือหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสที่จะเสนอคนนอกเป็นไปได้น้อยมาก
เว้นเสียแต่ในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่น เหตุการณ์เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีการชุมนุมทางการเมือง นายกฯ ยุบสภา แต่ละองค์กรต่างหาทางออก มีการพูดถึงมาตรา 7 แต่ก็มีการตีความในทำนองทำไม่ได้ สถานการณ์บ้านเมืองจึงต้องเจอทางตัน
ด้วยเหตุนี้ กมธ.รธน.จึงลงความเห็นให้เปิดช่องเลือกนายกฯ คนนอกได้ ซึ่งจะนำมาใช้เมื่อถึงคราวเกิดวิกฤตในสภาหาทางออกกันไม่ได้นั่นแหละ
ข้อห่วงกังวลรัฐบาลทหารจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ ประเด็นปัญหานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยลั่นสัจวาจาจะไม่เล่นการเมือง เพราะการเข้ามาขัดตาทัพก็อ่วมอรทัยอยู่แล้ว
หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับเชิญให้เป็นนายกฯ อีกสมัยตามแบบฉบับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้องเจอแรงเสียดทานหนักหน่วงกว่าที่เป็นอยู่
ทุบโต๊ะตรงนี้เลย เป็นเจตนาดีของ กมธ.ยกร่าง รธน. ปลดล็อกทางตัน ไม่ได้มุ่งหวังให้ใครสืบทอดอำนาจเหมือนที่ฝ่ายการเมืองตั้งธงค้าน


