ผู้ว่ารถไฟฯ ออกไป
ประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย น่าจะลาออกจากตำแหน่งไปได้แล้ว
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย น่าจะลาออกจากตำแหน่งไปได้แล้ว
สาเหตุมาจากคดีฆ่า ข่มขืน เด็กหญิงอายุ 13 ปี ขณะที่กำลังโดยสารรถไฟจากนครศรีธรรมราชกลับบ้านที่กรุงเทพฯ
การลาออกไม่ใช่เพราะผู้ว่าการรถไฟต้องรับผิดชอบในทุกเรื่อง โดยเป็นความจริงที่ผู้ว่าการรถไฟจะไปดูทุกอย่างโดยละเอียดไม่ได้
แต่คดีฆ่า ข่มขืน ที่เกิดขึ้นมันสะเทือนขวัญและแสดงถึงข้อบกพร่องของการรถไฟฯ จนยากจะยอมรับ
แม้จะมีการขึงขังในระยะแรก แต่ต่อไปมันจะถูกลืม โดยเฉพาะเมื่อเวลาผ่านไปเรื่องจางหาย ก็เสี่ยงจะเกิดซ้ำ
ในทางกลับกัน ถ้ามีเก้าอี้ผู้ว่าการรถไฟเป็นเดิมพัน ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ จะต้องป้องกันอย่างเต็มที่ในทุกๆ วันที่ดำรงตำแหน่ง
พันธกิจ หน้าที่ของผู้ว่าการรถไฟ ก็คือการสร้างบรรทัดฐานและมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด
และยิ่งเฉพาะเมื่อชาวบ้านรู้สึกอย่างชัดเจนว่ารถไฟไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ประภัสร์ก็ยิ่งจำเป็นต้องลาออก
เพราะจากรายงานผลการสอบสวนระบุว่า วันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานทำความสะอาดบนรถไฟขบวนดังกล่าว เป็นผู้ก่อคดีฆ่า ข่มขืน เด็กหญิงที่เดินทางบนรถนอนชั้น 2 แบบพัดลม
ใครเคยเดินทางด้วยรถไฟคงนึกภาพออก ตู้นอนชั้น 2 นั้น ตอนกลางวันจะเป็นเก้าอี้ยาวมี 2 แถวตั้งขวางพร้อมพนักพิง แต่พอถึงกลางคืนก็จะดึงเอาที่นั่งและพนักพิงของแต่ละข้างเข้ามาชิดติดกันกลายเป็นที่นอน
วันชัย สารภาพว่า เสพยาบ้าและกินเบียร์บนรถไฟ เมื่อเห็นเด็กลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน จึงเข้าบีบคอ ข่มขืน
หลังจากก่อเหตุ วันชัยโยนร่างเด็กรวมถึงผ้าปูที่นอนที่เอาเช็ดคราบเลือดทิ้งออกนอกหน้าต่าง ทำลายหลักฐาน อำพรางคดี
นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตู้รถนอน ขณะที่มีผู้โดยสารอื่นร่วมอยู่ด้วยทั้งโบกี้
แน่นอนว่าไม่มีใครคาดคิด เพราะความเชื่อพื้นฐานรถไฟน่าจะปลอดภัย
ประภัสร์ จึงต้องลาออก ทั้งเพื่อการรถไฟฯ เอง ทั้งเพื่อสร้างมาตรฐานองค์กร ทั้งเพื่อมาตรฐานสำหรับผู้ว่าการรถไฟคนต่อๆ ไป
ถ้าประภัสร์ไม่ลาออก คสช.ก็ควรจะปลดออกไปเสีย เพื่อเริ่มต้นวางรากฐานจริยธรรม สำนึกของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ที่ถ้าเกิดความเสียหายในองค์กรอย่างรุนแรง ผู้บริหารต้องรับผิดชอบ
ทำเป็นเยี่ยงอย่าง อย่าแค่ล้อมคอก เพราะมันจะจบลงแบบไฟไหม้ฟาง