ฟองสบู่ทองคำ
เปิดทำงานวันแรกหลายๆ คนอาจจะลมจับ โดยเฉพาะที่มีการลงทุนซื้อทองคำเอาไว้ เพราะราคาทองคำดำดิ่งชนิดที่น่าใจหาย ตามราคาทองคำในตลาดโลกลดต่ำลง
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เปิดทำงานวันแรกหลายๆ คนอาจจะลมจับ โดยเฉพาะที่มีการลงทุนซื้อทองคำเอาไว้ เพราะราคาทองคำดำดิ่งชนิดที่น่าใจหาย ตามราคาทองคำในตลาดโลกลดต่ำลง
2 วันก่อน ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวอย่างรุนแรง โดยลดลงมาถึง 13% เป็นการลดลงครั้งประวัติศาสตร์ รุนแรงสุดในรอบ 32 ปี
ทองคำในประเทศที่อิงราคาต่างประเทศ ก็ต้องปรับตัวลดลงมาด้วย
ก่อนปิดสงกรานต์ ราคาทองคำต่างประเทศที่ใช้อ้างอิงอยู่ที่ 1,566 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ปรากฏว่าระหว่างสงกรานต์ทองคำก็ร่วงลงไป 200 เหรียญเศษ มาอยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญเศษ
นั่นหมายความว่าราคาทองคำในประเทศก็ต้องปรับตัวลดลง
เทียบกันง่ายๆ ก่อนปิดสงกรานต์ ราคาทองคำแท่งซื้อขายบาทละ 21,250-21,350 บาท แต่วันนี้ราคาน่าจะต่ำกว่า 2 หมื่นบาท หรือราวๆ 1.9 หมื่นบาทเศษ
ทั้งหมดเป็นไปตามราคาทองคำในตลาดโลก
และหลายๆ คนเริ่มมองว่าทองคำอาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ได้ง่ายๆ
ราคาทองคำเคยขึ้นสูงถึงระดับ 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เทียบแล้วเป็นทองคำในประเทศที่บาทละประมาณ 2.7 หมื่นบาท
ครั้งนั้นก็มีการเตือนกันว่า ทองคำอาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่แตก เนื่องจากมีการเก็งกำไรกันอย่างหนัก บางช่วงทองคำเพิ่มพรวดพราดถึง 30% ในเวลาแค่ 7 เดือน
ทว่าคำเตือนก็ยังไม่สามารถหยุดการซื้อทองได้ มิหนำซ้ำยังมีบางแห่งมองว่าทองคำจะทะลุขึ้นไปถึง 2,000 เหรียญสหรัฐ หรือบาทละ 3 หมื่นบาท ทำให้ราคาทองยังไม่ไหลลงมา
แต่วันนี้ทองคำกลับตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย เป็นราคาที่ไม่เคยคิดกันมาก่อน หล่นทะลุแนวต้านทุกแนวที่เคยประเมินเอาไว้
สาเหตุสำคัญก็เนื่องจากราคาทองคำขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว ไม่มีพื้นฐานของหลักความต้องการ (Demand) หรือการผลิต (Supply)
ตัวเลขที่ประเมินกันก็คือ มีการซื้อเก็งกำไรทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 25% แต่ทว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทองคำ อาทิ เครื่องประดับ ฯลฯ กลับลดต่ำลงประมาณ 20%
นั่นหมายความว่า ราคาทองที่เพิ่มมาจากเม็ดเงินมหาศาลที่พร้อมจะไหลไปเก็งกำไร เพื่อหวังผลตอบแทนสูงๆ
ในทางกลับกันเม็ดเงินเหล่านี้ก็พร้อมจะไหลออกไปจากสิ่งที่เข้ามาเก็งกำไรได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างที่เกิดขึ้นและเห็นกันแล้วก็คือทองคำ
ทองคำในยามนี้จึงเสี่ยงกับภาวะฟองสบู่แตก
อย่าประมาท อาจเจ็บตัวได้จากประกายสีทอง


