posttoday

เอากันให้เต็มที่เลย

28 สิงหาคม 2555

อุตส่าห์ทำงานใหญ่ทั้งทีอย่าทำขายหน้าถูกมองเป็นเครื่องมือนักการเมือง

โดย....อสนีบาต

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอกำลังทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  นอกจากลงพื้นที่ติดตามการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวส่งข้อมูลเสนอรัฐบาลก่อนเข้าสู่ฤดูซักฟอกให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ละเลยการทุจริต อีกหนึ่งภารกิจขยันขันแข็ง เห็นจะเป็นการติดตามสอบสวนคดีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ดีเอสไอเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ และสุเทพ  เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯมาให้ข้อมูลนาน 7 ชั่วโมง  ส่วนการให้ข้อมูลในห้องมีบรรยากาศตรึงเครียดตามสื่อคอนโทรลพาดหัวข่าว  หรือเป็นการให้ข้อมูลตามปกติก็ว่ากันไป หลังดีเอสไอได้รับข้อมูลจากอภิสิทธิ์  วางคิวต่อไปจะสอบถามนายทหารแม่นปืน   ตามที่พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุขรองอธิบดีดีเอสไอในฐานะหัวหน้าสอบสวนอ้างว่า เห็นข้อมูลในสื่อเวปไซต์ มีสไนป์เปอร์ยิงผู้ชุมนุม

กรณีสไนปเปอร์ดูเหมือนดีเอสไอจะจับให้มั่นคั้นให้ตาย อยากได้ข้อมูลยิ่งยวด หลังจากฝ่ายทหารขอเเลื่อนนัดมาก่อนหน้านี้แล้ว   คำถามคงหนีไม่พ้น ยิงประชาชนหรือเปล่า แต่สังคมอยากให้ดีเอสไอถามต่อด้วยว่า เหตุที่ลั่นกระสุนเพราะมีผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธสงครามล่อเป้าทหารและผู้บริสุทธิ์หรือไม่  จะได้ไม่ถูกวิจารณ์เลือกตั้งคำถามแบบไม่รอบด้าน

กระบวนการสอบสวนต้องฟังความสองฝ่าย จะสามฝ่ายสี่ฝ่ายยิ่งดีใหญ่ โดยเฉพาะคนอยู่ในกรรมการศอฉ.ต้องเชิญมาสอบด้วย ทำให้นึกถึง ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นกรรมการ ศอฉ. เพราะก่อนหน้านี้  รองอธิบดีดีเอสไอเคยให้ข่าว นอกจากเชิญอภิสิทธิ์ สุเทพสอบแล้ว  ถ้าจำเป็นก็ต้องเชิญธาริตมาสอบด้วย

แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วกระมัง   เพราะอธิบดีดีเอสไอออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 ส.ค. "จะไม่เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน  เพราะเป็นข้าราชการพลเรือนที่เข้าไปทำหน้าที่ในศอฉ. แต่ไม่เคยร่วมประชุมกับฝ่ายยุทธการ" เมื่อสภาพการณ์เป็นแบบนี้ ธาริตไม่ให้ปากคำ  คนเป็นรองอธิบดีจะกล้าสอบอธิบดีหรือ ฮา…

แปลกดีเหมือนกัน สุเทพกล่าวถึงธาริตเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ยืนยันว่าในการประชุมศอฉ.หลายครั้ง อธิบดีดีเอสไออยู่ร่วมกันตลอด  ตอกย้ำข้อมูลผ่านถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนกล่าวถึงธาริตในฐานะร่วม ศอฉ. ยังให้ข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์   เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำให้ใคร่อยากรู้ข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์ของธาริตเป็นอย่างไร 

“รองอธิบดีประเวศน์ไม่ต้องการทราบหรือ   หรือทราบแล้วจากการคุยแบบไม่ต้องบันทึกคำให้การ  หรือทราบแล้วแบบไม่ต้องอัดเทปไว้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล   อีกอย่างบ้านนี้เมืองนี้ต้องการสร้างมาตรฐานตามที่แกนนำคนเสื้อแดงเรียกร้องไม่อยากให้เกิดสองมาตรฐาน   อยากได้ความจริงรอบด้าน ดีเอสไอน่าสนองตอบสอบให้หมดทุกคน เพื่อความกระจ่างแจ้ง   

อ้าวทำไมแกนนำคนเสื้อแดงไม่ออกมาเรียกร้องกดดันดีเอสไอเชิญมาสอบให้หมด ทำไมนิ่งเงียบไปซะแล้ว หรือเห็นว่าเชิญเฉพาะฝ่ายตรงข้ามตามที่เสร็จสมอารมณ์หมายก็เพียงพอ     

อุตส่าห์ทำงานใหญ่ทั้งทีอย่าทำขายหน้าถูกมองเป็นเครื่องมือนักการเมือง ยิ่งกำลังมีเสียงวิจารณ์ว่า มีขบวนการป่วนบ้านเผาเมืองต้องการจะเขียนประวัติศาสตร์การเมืองไทยหน้าใหม่  เทิดทูนคนหนีคดีทุจริตเป็นเทวดาสร้างชาติ ไม่มีพวกฝึกอาวุธ ไม่พบชายชุดดำทำร้ายประเทศไทย ไม่มีพวกบ้าดีเดือดประกาศก้อง เตรียมขวดคนละใบมาเอาน้ำมันที่กรุงเทพฯ  

เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู ถ้าสอบสอบให้เต็มที่ แล้วคดีประชาชนผู้บริสุทธิ์ ถูกลอบยิงจากเอ็ม 79 ทั้งบริเวณแยกคอกวัว สวนลุม  หรือแม้แต่กรณีพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่คุณนิชา ภรรยาออกมาเปิดเผยพร้อมหลักฐานภาพข่าว  ดีเอสไอตั้งโต๊ะแถลงข่าวจับกลุ่มชุดดำซึ่งสารภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร   อันนี้ลืมไปแล้วหรือ   เห็นว่า กลุ่มชุดดำดังกล่าวก็ได้รับประกันตัวในยุคที่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกฯ ตอนนี้ สำนวนยังอยู่ดีแน่นหนาเหมือนอย่างกับการทำสำนวนที่กำลังสอบขมักเขม้นอยู่นี้หรือไม่ เพราะเห็นว่าการทำสำนวนทหารฆ่าประชาชาชนดูจะเดินหน้ารวดเร็วเหลือเกิน 

แล้วกับคำถาม กรณีประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ได้รับการกระทำจากการถูกปลุกเร้ามาสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมืองแต่ต้องตาย  พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองแต่ต้องถูกทุบตี ไล่ฆ่า  คดีเป็นอย่างไรบ้าง  ดีเอสไอต้องทำเต็มที่เลย แถลงความคืบหน้าคดีพวกนี้ เหมือนอย่างที่ติดตามตัวนายทหารแม่นปืนมาสอบบ้าง 

ข้ออ้าง ได้แต่ข้อมูลแท็กซี่สวนลุมฯ  หรือพ่อค้าส้มตำข้างโรงพยาบาลตำรวจ  แต่พยานจากราชการไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะข้อมูลทางทหาร ฟังแล้วพูดไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก  แล้วคนนั่งอยู่ห้องใกล้รองฯ ดีเอสไออย่างอธิบดีธาริตซึ่งเคยทำงาน ศอฉ.แท้ๆ มีเอกสารการประชุม ศอฉ. รับรู้เรื่องราวทั้งหมดเหตุไฉนไม่ส่งเอกสารให้รองฯ ดีเอสไอ  หรือเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญเผาทำลายทิ้งไปหมดแล้ว

ในฐานะประชาชนธรรมดาพอทราบสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอยู่บ้าง มีการออกกฎหมาย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ ถ้าอยากได้ข้อมูลข่าวสารราชการใช้สิทธิไปยื่นขอหน่วยงานเป้าหมาย ถ้าไม่ให้ก็ไปอุทธรณ์สำนักนายกฯ โน่น 

ไม่น่าเชื่อเป็นถึงหน่วยงานพิเศษ เชี่ยวชาญสืบสวน แต่ไม่น่าอ่อนหัดกฎหมาย งานนี้เชียร์เต็มที่นะครับ  ดีเอสไอเอาเลย ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการขอเปิดเผยบันทึกการประชุม ศอฉ.  หรือเปิดเผยบันทึกปฏิบัติการของทหาร เอากันให้เต็มที่ไปเลย

ดีกว่าแสดงความเห็นไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ผ่านสื่อไปวันๆ   

อีกอย่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลที่พี่น้องมวลชนเสื้อแดงกดดันทุกสามเวลาหลังอาหารให้ดำเนินคดีผู้ทำร้ายประชาชน และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานบอร์ด สขร.ซะด้วย กระบวนการข้อมูลย่อมเปิดทางไว้อยู่แล้ว  

ว่าแต่ ดีเอสไอไม่อยากเห็นบันทึกการประชุมแท้จริงที่มีการอ้างข้อกฎหมายหรือคำสั่งศาลในอดีตกล่าวถึงการชุมนุมที่มิชอบด้วยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ให้สิทธิเจ้าหน้าที่รัฐควรปฏิบัติกับผู้ติดอาวุธสงครามอย่างไร

หรือเห็นว่าแค่ข้อมูลจากปากคำมวลชนที่รู้สึก (ขอย้ำคำว่า "รู้สึก")ทหารทำร้ายประชาชนก็เพียงพอแล้ว