SET วันส่งท้ายปี 68 ลุ้นแรงซื้อใกล้ low เดิม 1250/1244 จุด ก่อนดีดกลับ
SET ลุ้นแรงซื้อวันสุดท้ายใกล้ low เดิม 1250/1244 จุด ที่บริเวณนี้มีโอกาสทำให้หยุดไหลหรือดีดกลับได้ มีแนวต้านที่ 1260/1265 จุด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ PTT และ BDMS
KEY
POINTS
- ดัชนี SET มีแนวโน้มทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่แนวรับ 1250/1244 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสจะหยุดปรับตัวลงและดีดกลับขึ้นได้
- ปัจจัยหนุนการดีดตัวมาจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน, กองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี และการทำ Window Dressing
- ภาพรวมตลาดยังเป็นการแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1250-1320 จุด โดยมีปัจจัยหนุนตามฤดูกาลอย่าง January Effect เป็นความหวังเพิ่มเติมหลังปีใหม่
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งไซด์เวย์/รีบาวด์ นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิลดลง ค่าเงินบาทอ่อนค่าหลังทองคำปรับตัวลงแรง ลดความกังวลหุ้นส่งออกและ อาจหนุน DELTA ขณะที่แรงซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีวันสุดท้ายยังเป็นความหวัง ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมีโอกาสหนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำ ทางเทคนิค ระยะสั้นหลุดแนวรับหลักที่ 1257 ทำให้มีช่วงลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1250/1244 ที่บริเวณนี้มีโอกาสทำให้หยุดไหลหรือดีดกลับได้ มีแนวต้านที่ 1260/1265
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1250-1320 จุด โดย บรรยากาศลงทุนมีปัจจัยหนุนเชิงฤดูกาลจากแรงซื้อโค้งสุดท้ายปลายปี จากกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และการทำ Window Dressing อีกทั้งยังมีแรงหนุนจาก January Effect ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง 5 ปี (2564-2568) พบว่า ช่วงสัปดาห์แรกของวันทำการหลังปีใหม่ SET จะปรับขึ้น โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว 1.3% ด้วย Win Rate 60% สะท้อนพฤติกรรมการกลับเข้าลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศหลังพันวันหยุดยาว ขณะเดียวกันมองตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักกับปัจจัยการเมืองในประเทศมากขึ้น รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองหลัก ส่วนปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามซึ่งอาจมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น ได้แก่ FOMC Minutes และข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในเดือน ธ.ค.
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1.หุ้น Defensive ส่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาดไตรมาส 4/2568 กำไรยังเดิมโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2.หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดไห้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 68 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศ จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3.หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลงตามภาระหนี้สิน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลงหรือกำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4.Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จาก January Effect โดยเน้นเลือกหุ้น SETHD และ SET ซึ่งจากสถิติ 5 ปีล่าสุดพบให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงราว 1.5-2.0% ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังเปิดปีใหม่ ด้วย Win Rate 80% แนะนำ KTB BBL AP THANI KBANK และ 2) หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และ/หรือ ความคาดหวังเชิงบวกกจากเชื่อมโยงกับนโยบายของพรรคการเมือง อาทิ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL TNP) กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (GFPT CBG OSP) กลุ่มสินเชื่อ (SAWAD TIDLOR) และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PTT มีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น บริษัทวางเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจ LNG ภูมิภาคผ่านการลงทุนเชิงรุกในโครงสร้างพื้นฐาน LNG และ ปลดล็อกมูลค่าจาก Asset Monetization ส่วน Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ P/BV 0 69 เพียง 0.7 เท่า และ P/E 10.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี พร้อมฝันผล 6% เป้าหมายระยะสั้น 32.50 บาท
BDMS มีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากโอกาสได้ประโยชน์ธีม Window Dressing หลังราคา ลดลง YTD ขณะที่ ESG Rating สูงขึ้นเป็น AAA และกำไรไม่ผันผวนตามปัจจัยภายนอก โดยปี 2568 คาดกำไรปกติเติบโต 3%YoY และเติบโตได้ต่อ 8%YoY ในปี 2569 และอัตราผลตอบแทนปันผลน่าสนใจช่วยลดความเสี่ยงขาลง เป้าหมายระยะสั้น 19.80 บาท


