posttoday

3 นักลงทุนรายใหญ่ โผล่ถือ NTF เปิดเทรดวันแรก 8.50 บาท เหนือจอง 41.67%

16 ธันวาคม 2568

“NTF” ไอพีโอตัวสุดท้ายของปี 68 เปิดเทรด mai วันแรก 8.50 บาท พุ่ง 41.67% จากราคาไอพีโอ 6.00 บาท พบ หมอพงศ์ศักดิ์-สุระ-เสี่ยปู่และภรรยา โผล่ถือหุ้น

KEY

POINTS

  • หุ้น NTF เปิดซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่ราคา 8.50 บาท สูงกว่าราคาจอง IPO ที่ 6.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 41.67%
  • พบ 3 นักลงทุนรายใหญ่เข้าถือหุ้น ได้แก่ "หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี", "สุระ คณิตทวีกุล" และ "สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล" (เสี่ยปู่)  
  • NTF เป็นผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายและส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมียม โดยมีทุเรียนเป็นสินค้าหลักกว่า 96% และมีตลาดส่งออกสำคัญคือประเทศจีน ตั้งเป้ายอดขายปี 68 ที่ 2,900 ล้านบาท เติบโต 183% จากปีก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NTF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (16 ธ.ค.2568) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 

โดยเปิดที่ราคา 8.50 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 41.67% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 6.00 บาท 

ล่าสุด เวลา 12.04 น. ปรับเพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.83% มาอยู่ที่ 6.65 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 465.26 ล้านบาท

3 นักลงทุนรายใหญ่ โผล่ถือ NTF เปิดเทรดวันแรก 8.50 บาท เหนือจอง 41.67%

ทั้งนี้ NTF ประกอบธุรกิจผู้จำหน่ายผลไม้สดและแช่แข็งทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มะพร้าว และผลไม้อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทและแบรนด์ของลูกค้า

NTF เสนอราคาขาย IPO ที่ 6.00 บาท/หุ้น จำนวน 60,000,000 หุ้น คิดเป็น 30.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองทุกประเภทตาทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนด

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้

1. ลงทุนในเครืองมือและอุปกรณ์การผลิต จำนวน 120 ล้านบาท
2. เงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ จำนวน 171.6 ล้านบาท 
3. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารบางส่วน จำนวน 50 ล้านบาท

ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 351.14 ล้านบาท 563.31 ล้านบาท และ 1,118.47 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 8.17 ล้านบาท 22.62 ล้านบาท และ 64.27 ล้านบาท ตามลำดับ 

สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 2,122.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 202.79 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้น พบว่า “หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 9,900,000     หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.95% “สุระ คณิตทวีกุล” ถือหุ้นอันดับ 8 จำนวน 5,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.50% “สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล” (เสี่ยปู่) ถือหุ้นอันดับ 10 จำนวน 3,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.50% และ “วารุณี ชลคดีดำรงกุล” (ภรรยาเสี่ยปู่) ถือหุ้นอันดับ 12 จำนวน 2,050,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.03%

"วิชัย ศิระมานะกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NTF เปิดเผยว่า หลังการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ NTF มีเป้าหมายใช้เงินที่ได้รับเพื่อเสริมสภาพคล่องและรองรับการเติบโตในอนาคต โดยมุ่งเพิ่มปริมาณสินค้าด้วยเงินทุนหมุนเวียน รองรับกับปริมาณคำสั่งซื้อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 

พร้อมทั้งลงทุนด้านเทคโนโลยีการควบคุมคุณภาพ อาทิ เครื่อง CT Scan เครื่องคัดแยกน้ำหนักบรรจุ เครื่องล้างและเป่าลม เพื่อยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้มีความแม่นยำ ลดความสูญเสีย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการส่งออกสินค้าพรีเมียมให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการผลิตสินค้าคุณภาพ ถือเป็นจุดแข็งของ NTF ที่สามารถส่งมอบผลไม้ได้ตรงตามความต้องการของตลาดพรีเมียม ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว และช่วยยกระดับมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรของไทย

ทั้งนี้ NTF เป็นผู้ส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมียม โดยเฉพาะทุเรียนที่เป็นสินค้าหลักของบริษัทกว่า 96% รองลงมาคือ มะพร้าว และลำไย ซึ่งทุกสินค้าผ่านระบบการคัดเกรดและควบคุมคุณภาพที่ได้ตามมาตรฐาน 2Q2T ของ NTF เพื่อรองรับความต้องการของตลาดปลายทางทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพสินค้า และด้วยความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจส่งออกผลไม้สด ทำให้มีการเติบโตของรายได้ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา 

ในปี 2568 NTF ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 2,900 ล้านบาท เติบโต 183% จากปีก่อน สะท้อนถึงความต้องการผลไม้คุณภาพสูงในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพของ NTF ด้วย

สำหรับตลาดหลักของ NTF ได้แก่ ประเทศจีน ตลาดที่มีอัตราการบริโภคผลไม้พรีเมียมเติบโตและสม่ำเสมอ โดยสินค้าของ NTF จัดจำหน่ายให้กับผู้ค้าส่งผลไม้เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ค้าผลไม้ในหลายมณฑลของประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ของ NTF ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการตลาดให้สอดคล้องในการจำหน่ายในต่างประเทศ ได้แก่ เหม่ย ลี่ (Mei Li), ไท่ ถิง ห่าว (Tai Ting Hao), โมมันไท่ (Mo Man Tai) และ มินิ (Mini) รวมถึงแบรนด์ที่พัฒนาร่วมกับลูกค้า ได้แก่ ไท่ จี๋ (Tai Ji) และ จิน เยี่ยน (Jin Yan) และแบรนด์ลูกค้าที่เป็นแบรนด์ระดับโลก อย่าง โดล (Dole)

นอกจากนี้ NTF มีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ พร้อมกระจายความเสี่ยงด้านตลาด และต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง และสร้างความยั่งยืนให้กับโครงสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่ง NTF จะดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ การบริหารจัดการที่โปร่งใส พร้อมสร้างโอกาสเติบโตตามความสามารถของธุรกิจให้สมดุล ควบคู่กับการพัฒนาเกษตรกรรมไทย เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ข่าวล่าสุด

Reddit ฟ้องรัฐบาลออสเตรเลียจากการแบนโซเชียลในผู้เยาว์