CHAO ส่งซิกไตรมาส 4/68 โตต่อเนื่อง รับไฮซีซัน-ท่องเที่ยวฟื้นตัว
CHAO รับอานิสงส์ไฮซีซัน-ท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก-เปิดตัวสินค้าใหม่ หนุนไตรมาส 4/68 โตต่อเนื่อง ปลื้ม “ข้าวตังกุ้งหยองรสผัดไทย” กระแสแรงเกินคาดในจีน ดันพอร์ตต่างประเทศพุ่ง 19.7%
KEY
POINTS
- CHAO คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/68 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศ
- เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในไตรมาส 4 เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเทศกาล ควบคู่ไปกับการรุกตลาดต่างประเทศที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนารสชาติให้เข้ากับผู้บริโภคท้องถิ่น
- การเติบโตยังมาจากกลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ (NPD) กว่า 30 SKUs ตลอดปี และการขยายฐานลูกค้า B2B ในประเทศผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างแม็คโคร
“ณภัทร โมรินทร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2568 บริษัทจะขับเคลื่อนการเติบโตด้วยกลยุทธ์ Aggressive NPD (New Product Development) อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้วางจำหน่ายสินค้าใหม่รวมกว่า 30 SKUs ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ (Better-for-you Snack) และรสชาติที่แปลกใหม่
นอกจากนี้ ตลาดในประเทศ บริษัทเดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จับมือกับ “แม็คโคร” (Makro) ในการพัฒนาสินค้าเบเกอรี่ใหม่อย่างขนมปังคัสตาร์ดไข่เค็มหน้าหมูหยอง ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์หมูหยองของเจ้าสัวเข้าสู่ตลาดเบเกอรี่ ช่วยขยายช่องทางจัดจำหน่ายและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ความร่วมมือ (Collaboration) ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์ร่วมกัน (Co-Product & Co-Brand) กับพันธมิตร โดยมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2568 โดยได้รับปัจจัยบวกจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน (High Season) ของธุรกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาคึกคักจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับบริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในไตรมาส 4 เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ควบคู่ไปกับการรุกตลาดต่างประเทศที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ความร่วมมือในการพัฒนาสินค้า (Joint Product Development) กับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อรังสรรค์รสชาติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่น (Localization) ซึ่งจะช่วยผลักดันให้พอร์ตรายได้จากต่างประเทศเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านภาพรวมในไตรมาส 3/2568 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศได้อย่างโดดเด่น โดยมียอดขายจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 19.7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ปัจจัยสำคัญมาจากความสำเร็จของการบุกตลาดจีนด้วยสินค้าใหม่ “ข้าวตังกุ้งหยองรสผัดไทย” (Rice Cracker with Shrimp Floss and Pad Thai Sauce) ที่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคชาวจีน โดยมียอดการซื้อซ้ำ (Repeat Purchase) ในอัตราที่สูง ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ที่ตรงจุดบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Xiaohongshu, TikTok, IQiyi และ WeChat เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเห็นสัญญาณบวกจากตลาดสหรัฐอเมริกาที่ยอดขายกลุ่ม Cereal Cracker กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากการขยายพื้นที่วางจำหน่ายที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดสู่ยุโรป โดยล่าสุดได้ส่งออกสินค้าล็อตแรกไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์เรียบร้อยแล้ว และเดินหน้าขยายตลาดในสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้นำนวัตกรรม ‘Modern Thai Snack’ ไปจัดแสดงในงาน Anuga 2025 ที่เยอรมนี เพื่อเปิดประตูสู่ตลาดสากลให้กว้างขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากคู่ค้าต่างประเทศอย่างมาก สะท้อนศักยภาพในการนำพาแบรนด์ขนมขบเคี้ยวรสชาติไทยไปสู่ระดับโลก
“ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์บริหารจัดการพอร์ตผลิตภัณฑ์ (Product Mix) และช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel Mix) โดยเน้นโฟกัสกลุ่มที่มี High Margin สำหรับทิศทางในไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของปี เราเห็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่ง ทั้งจากกำลังซื้อในประเทศช่วงเทศกาล การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เมื่อประกอบกับแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เตรียมไว้ จะเป็นแรงส่งสำคัญให้ยอดขายในช่วงไฮซีซันนี้เติบโตตามเป้า สอดรับกับแผนงานปี 2568 ที่เราเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยนวัตกรรมสินค้าใหม่รวมกว่า 30 SKUs”


