posttoday

SET พักตัว ปัจจัยภายนอกกดดัน แนะ “Selective Buy” ชู DIF และ OR

07 พฤศจิกายน 2568

SET พักตัว ปัจจัยภายนอกกดดัน ติดตามตัวเลขส่งออกจีนที่อาจมีผลต่อตลาดเอเชีย กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ DIF และ OR

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทย (SET) อยู่ในภาวะพักตัวและแกว่งตัวในกรอบแคบจากแรงกดดันของปัจจัยภายนอก
  • กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือ "Selective Buy" โดยเน้นเลือกลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว
  • หุ้นเด่นที่ได้รับการแนะนำให้เข้าลงทุนคือ KTB และ OR

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดไซด์เวย์/พักตัว เมื่อวานนี้ DELTA กลับมาหนุนตลาดเป็นหลัก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิแม้ตลาดปรับตัวขึ้น ติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/2568 โค้งสุดท้ายสัปดาห์หน้า ปัจจัยภายนอกการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทำสถิติใหม่เป็นวันที่ 38 ส่วนความกังวลเรื่องฟองสบู่หุ้น AI ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวังในระยะกลาง วันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกจีนที่อาจมีผลต่อตลาดเอเชีย ทางเทคนิคตลาดยืนเหนือ 1300/1305 ทำให้กลับมาขึ้น แต่การขึ้นคาดยังไม่ผ่าน 1320 การพักอย่าลงหลุด 1300 อีก

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1280-1345 จุด ปัจจัยในประเทศติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3/2568 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยจะรับซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและค้างชำระไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ขณะที่เงินเฟ้อไทย ต.ค.2558 คาดติดลบต่ออย่างน้อย 0.5%ΥoΥ (จาก ก.ย. ที่ -0.7%YoY) 

ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และดุลการค้า ต.ค.2568 หากออกมาแย่ ตลาดจะให้น้ำหนักเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อใน ธ.ค.นี้ 2) การประชุม BoE คาดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย และ 3) งบไตรมาส 3/2568 บจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ คาดจะดีกว่าตลาดคาด 

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buv" ใน 2 ธีมหลัก และ 4 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 จะยังเติบโตดี ทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE

 

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วงไตรมาส 1/2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีการะหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลด หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น AP MTC TIDLOR รวมทั้งกลุ่ม REITS แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

 

3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่มีแนวโน้มจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ BCPG TU GFPT CPALL BGRIM 

2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์และสีจีนผิงบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP 

3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 

4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอลลาร์อ่อนค่า (บาทแข็งค่า) แนะนำ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ DIF ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสันจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง โดย INVX คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bps อีก 1 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปี และคาดกำไรหลักไตรมาส 3/2568 โตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยที่ทยอยลด โดยการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps ช่วยหนุนกำไร 70 ล้านบาท/ปี ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 9.55 บาท

OR มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ แม้ใกล้เคียงกับที่เราคาด กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (+17%QoQ, พลิกกำไร YoY) จากมาร์จิ้นดีเซลและเบนซินที่ดี ยอดขาย Café Amazon สูงสุดเป็นประวัติการณ์หมุน กำไรไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะยังดีต่อตามฤดูกาลท่องเที่ยว เป้าหมายระยะสั้น 15.00 บาท

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”