posttoday

จับตา KTB เปลี่ยนนโยบายปันผลเป็น 2 ครั้ง/ปี หลังจ่ายระหว่างกาลรอบ 13 ปี

30 ตุลาคม 2568

จับตา KTB เปลี่ยนนโยบายจ่ายเงินปันผลเป็น 2 ครั้ง/ปี จากเดิม 1 ครั้ง/ปี หลังกลับมาปันผลระหว่างกาลในรอบ 13 ปี ในอัตรา 0.43 บาท/หุ้น ขึ้น XD 11 พ.ย.68 กำหนดจ่ายเงินปันผล 27 พ.ย.68

KEY

POINTS

  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 ในอัตรา 0.43 บาท/หุ้น
  • การจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2555
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า KTB อาจปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อื่นๆ

ตามที่วานนี้ (29 ต.ค.2568) ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดจากกำไรสุทธิงวดวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2568 ในอัตรา 0.43 บาท/หุ้น ขึ้น XD หรือวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล วันที่ 11 พ.ย.2568 กำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 27 พ.ย.2568

การจ่ายปันผลระหว่างกาลในครั้งนี้ของ KTB หลังจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ทำให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิ จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา KTB จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม และถือเป็นการกลับมาจ่ายปันผลระหว่างกาลในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2555    

โดยจากการรวบรวมข้อมูลการจ่ายเงินปันผลของ KTB ในอดีต พบว่า ในปี 2555 มีการจ่ายเงินปันผลจำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ในอัตรา 0.36 บาท/หุ้น (ขึ้น XD วันที่ 28 ส.ค.2555 จ่ายปันผล วันที่ 3 ต.ค.2555) และครั้ง 2 ในอัตรา 0.44 บาท/หุ้น (ขึ้น XD วันที่ 12 เม.ย.2556 จ่ายปันผล วันที่ 2 พ.ค.2556)

หลังจากนั้น KTB จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง ดังนี้

ปี 2556 

  • จ่ายเงินปันผล 0.88 บาท/หุ้น 
  • ขึ้น XD วันที่ 21 เม.ย.2557 
  • จ่ายปันผล วันที่ 9 พ.ค.2557

ปี 2557 

  • จ่ายเงินปันผล 0.90 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 21 เม.ย.2558
  • จ่ายปันผล วันที่ 8 พ.ค.2558

ปี 2558 

  • จ่ายเงินปันผล 0.76 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 10 พ.ค.2559 
  • จ่ายปันผล วันที่ 27 พ.ค.2559

ปี 2559 

  • จ่ายเงินปันผล 0.86 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 8 พ.ค.2560 
  • จ่ายปันผล วันที่ 26 พ.ค.2560

ปี 2560 

  • จ่ายเงินปันผล 0.61 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.2561 
  • จ่ายปันผล วันที่ 18 พ.ค.2561

ปี 2561 

  • จ่ายเงินปันผล 0.718 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 23 เม.ย.2562 
  • จ่ายปันผล วันที่ 10 พ.ค.2562

ปี 2562  

  • จ่ายเงินปันผล 0.753 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 8 เม.ย.2563 
  • จ่ายปันผล วันที่ 23 เม.ย.2563

ปี 2563 

  • จ่ายเงินปันผล 0.275 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 21 เม.ย.2564
  • จ่ายปันผล วันที่ 7 พ.ค.2564

ปี 2564 

  • จ่ายเงินปันผล 0.418 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 20 เม.ย.2565 
  • จ่ายปันผล วันที่ 6 พ.ค.2565

ปี 2565 

  • จ่ายเงินปันผล 0.682 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 18 เม.ย.2566
  • จ่ายปันผล วันที่ 3 พ.ค.2566

ปี 2566 

  • จ่ายเงินปันผล 0.868 บาท/หุ้น
  • ขึ้น XD วันที่ 17 เม.ย.2567 
  • จ่ายปันผล วันที่ 3 พ.ค.2567

ปี 2567 

  • จ่ายเงินปันผล 1.545 บาท/หุ้น 
  • ขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย.2568
  • จ่ายปันผล วันที่ 2 พ.ค.2568

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ เทียบกับในอดีตที่จ่ายปีละครั้ง จึงมีความเป็นไปได้ที่นโยบายปันผลจะถูกปรับเป็นปีละ 2 ครั้ง เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าราคาหุ้นควรได้รับการตอบสนองเชิงบวกจากตลาด

นอกจากเป็นการให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นแล้ว ประเมินเป็นการส่งสัญญาณในการบริหารโครงสร้างเงินทุน เพื่อยกระดับ ROE

โดยหากในอนาคตมีการเพิ่มนโยบายปันผลจากปี 2567 อยู่ที่ 49% ของกำไรสุทธิ (สมมติฐานฝ่ายวิจัยปี 2568-2570 ที่ 49%) และการซื้อหุ้นคืนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การประเมินมูลค่าหุ้นสูงขึ้น ตาม ROE ที่จะดีขึ้นจากสมมติฐาน

ด้านการดำเนินงานในอนาคต ประเมินถูกขับเคลื่อนด้วยแผนการเพิ่มฐานรายได้ Non-NII (Wealth management) และ NII คาดหวัง Capex cycle จากรัฐบาลใหม่ อาทิ การมุ่งหน้าสู่การเป็นฮับการบิน ผ่านการขยายสนามบิน (AOT มีวงเงินสินเชื่อระยะสั้นและยาว ที่ยังไม่ได้เบิกใช้กับ KTB ราว 40,000 ล้านบาท) หนุนการเติบโตฝั่งสินเชื่อ

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า การจ่ายปันผลระหว่างกาลดังกล่าวสะท้อนถึงศักยภาพทางการเงินของ KTB ที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มจะจ่ายปันผลปีละ 2 รอบ เช่นเดียวกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ โดยการจ่ายงวดครึ่งปีแรกคิดเป็น Dividend Yield ราว 1.6% และ Dividend Payout Ratio ที่ 26% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารขนาดใหญ่ที่อยู่ราว 18-20%

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2568 KTB จะจ่ายปันผลทั้งปีที่ระดับ 1.73 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield สูงถึงประมาณ 6.5% โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 49,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน จากแรงหนุนของการตั้งสำรองลดลง พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิงค่า PBV ปี 2569 ที่ 0.85 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี 0.25 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ