posttoday

SET ปรับตัวลง - DELTA กลับมากดดัน หลังเข้าเกณฑ์ติด Cash Balance

10 ตุลาคม 2568

SET ปรับตัวลง - DELTA กลับมากดดัน หลังเข้าเกณฑ์ติด Cash Balance สัปดาห์หน้าจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเที่ยวเมืองรอง กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ CPALL และ SIRI

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทย (SET) ปรับตัวลดลง โดยมีแรงกดดันหลักมาจากหุ้น DELTA
  • สาเหตุที่ DELTA กดดันตลาดเนื่องจากถูกประกาศให้เข้าเกณฑ์กำกับซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด (Cash Balance)
  • สถิติในอดีตชี้ว่าหุ้นที่เข้าเกณฑ์ Cash Balance มักให้ผลตอบแทนเป็นลบในวันถัดมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของดัชนี

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า  ตลาดปรับลง/พักฐาน หลังตลาดฯ แจ้ง DELTA เข้าเกณฑ์ติด Cash Balance สถิติในอดีตชี้ว่าจะให้ผลตอบแทนเป็นลบในวันถัดไปกดดันตลาด แม้ Delta Taiwan ได้แจ้งยอดขายเดือน ก.ย. เติบโต 19.2%MoM ซึ่งปกติมีทิศทางเดียวกัน แต่คาดว่าอาจยังไม่ชดเชยได้ สัปดาห์หน้าติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเที่ยวเมืองรอง ทางเทคนิค ตลาดชะลอตัวที่แนวต้านที่ให้ไว้ 1320 ยังไม่ผ่าน ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1300/1290 พักไม่นานไม่ควรลงหลุดต่ำกว่า

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศ ติดตามตัวเลข เงินเฟ้อ ก.ย. ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดและติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หนุนให้ตลาดคาดหวัง กนง. จะยังมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม วันที่ 17 ธ.ค. หลังวันที่ 8 ต.ค. กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตามที่เราคาด

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ติดตาม FOMC Minutes เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ คาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P500 และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buv" ใน 2 ธีมหลัก และ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และ เราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้ง และปีหน้า 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเป็นลดลง เพราะมีภาระหนี้สิน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือกำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE และ 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPALL คาดได้อานิสงส์รัฐดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ กำไรปกติไตรมาส 3/2568 คาดจะเติบโต YoY สูงที่สุดในกลุ่ม +8%YoY เทียบกับ บริษัทอื่นๆ ที่ลดลง YoY ส่วนกำไรไตรมาส 4/2568 คาดจะเติบโต YoY จากคนละครึ่งพลัส ด้าน Val มีความน่าสนใจ PE 2568F ที่ 15x ต่ำสุดในกลุ่มเป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

SIRI คาดมีปัจจัยหนุนจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในขาลงและกำไรไตรมาส 3/2568 คาดจะออกมาดีและเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่จะเติบโต YoY และ QoQ ยอด Presales เติบโต 9%YoY และ 45%QoQ หนุนจากโครงการคอนโดเปิดใหม่ และอาจมีการบันทึกกำไรพิเศษจาก JV ด้าน Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ PER 2569F ที่ 5.4x เป้าหมายระยะสั้น 1.50 บาท

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68